พม.จับมือภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่จังหวัดสมุทรสาคร

พุธ ๒๖ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๑๕:๓๑
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำคณะผู้บริหาร และผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การค้ามนุษย์ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเพื่อนำข้อมูลไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ส่งผลกระทบในทางลบแก่ประเทศไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และกำหนดนโยบายเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๘ ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำนโยบายไปใช้ในการดำเนินงาน รวมทั้งการประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ ที่กำหนดให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นสำนักงานเลขานุการ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทำหน้าที่ประสานและร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเอกชน เพื่อกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ช่วยเหลือ เยียวยา และคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และรณรงค์ สร้างความตระหนัก รับรู้ของประชาชน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในแผนแม่บทเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประจำปี ๒๕๕๖ คือ ๑) การค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงาน ๒) การดูแลแรงงานที่เสี่ยงต่อการถูกค้ามนุษย์ ๓) การปรับปรุง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ๔) ระบบการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ๕) การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดี ๖) การอนุญาตให้ผู้เสียหายอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้เป็นการชั่วคราว (ตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑) ๗) การค้ามนุษย์กับการท่องเที่ยว ๘) การให้ข้อมูลและภาพลักษณ์ของประเทศไทย และ ๙) ทรัพยากรในการดำเนินงานตามแผนแม่บทเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อทำหน้าที่ประสานการดำเนินงานกับหน่วยงาน องค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักแก่เจ้าของสถานประกอบการ ผู้ประกอบการประมง และแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ ๗ จังหวัด คือ สมุทรสาคร ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง นครศรีธรรมราช สงขลา และสระแก้ว ด้วยแล้ว

นายอนุสรณ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เปิดตัว “ศูนย์ช่วยเหลือสังคม” (One Stop Crisis Center : OSCC) HOTLINE ๑๓๐๐ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ในปัญหาการค้ามนุษย์ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การใช้แรงงานเด็ก การกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้ง ผู้ที่ต้องการรับการดูแลจากสังคม โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพหลัก ผ่านโทรศัพท์สายด่วน โทร. ๑๓๐๐ สำหรับ รับแจ้งเหตุ ขอรับคำปรึกษา บริการข้อมูลต่างๆ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาพบปะกับตัวแทนผู้ประกอบการ แรงงานในสถานประกอบการ สื่อมวลชน และพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียน ประสานการดำเนินงานในระดับพื้นที่ รวมทั้งรวบรวมสถานการณ์ ปัญหาและข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของกระทรวงฯ และรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้ลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์การค้ามนุษย์ ไปแล้ว ๖ จังหวัด คือ จังหวัดระยองและชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๖ พ.ค. ๕๖ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ค.๕๖ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ค.๕๖ จังหวัดสงขา เมื่อวันที่ ๑๘ มิ.ย. ๕๖ และจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๑๙ มิ.ย. ที่ผ่านมา

“ปัญหาการล่อลวง กักขัง ทารุณกรรม บังคับค้าประเวณี บังคับขอทาน และบังคับใช้แรงงาน ทั้งหมดคือการค้ามนุษย์ ที่ส่งผลร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด หากพบเห็นเบาะแส หรือต้องการ ความช่วยเหลือ แจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” นายอนุสรณ์ กล่าวตอนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน