นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ให้ความสำคัญกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ด้านความมั่นคงของชีวิตและสังคมที่สนับสนุนบทบาทของสตรีไทยในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างเสมอภาค ด้วยการปกป้องสิทธิของสตรี ปรับปรุงกฎหมายที่คุ้มครองสตรีที่ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัว และดึงศักยภาพของสตรีให้มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ และได้กำหนดวิสัยทัศน์มุ่งเน้นการสร้างสรรค์พลังสตรีให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยกำหนดวัตถุประสงค์หลัก ๔ ประการ ดังนี้ ๑) เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยสำหรับการลงทุน เพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ๒) เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาศักยภาพและเครือข่ายสตรีในการเฝ้าระวังและดูแลปัญหาสตรี ไม่ใช่เพียงยกระดับคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่เป็นการช่วยเหลือในเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของความเป็นสตรีที่ถูกกดขี่ข่มเหงทางเพศ ช่วยเหลือกลุ่มสตรีให้ได้รับการดูแลอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ๓) เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสตรีขององค์กรต่างๆโดยเน้นกิจกรรมในการเสริมสร้างทั้งในส่วนของการแก้ไขปัญหาสตรี การรณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจผู้หญิงทุกวัยในทุกๆ มิติ และ ๔ ) เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการสนับสนุนโครงการอื่นๆ ที่เป็นการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสตรี ตามที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติพิจารณาเห็นสมควร
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบาทสตรีกรุงเทพมหานคร เพื่อให้โอกาสแก่สตรีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาส ให้แก่สตรีไทย ซึ่งกองทุนฯ มีสมาชิกดำเนินการเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเข้ามาจำนวนมาก ในระยะแรกคณะกรรมการได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ และได้พิจารณาโครงการฯ ที่เสนอขอรับการสนับสนุน ซึ่งมีมติเห็นชอบโครงการ จำนวนทั้งสิ้น ๕๔ โครงการ โดยแบ่งเป็นประเภทเงินทุนหมุนเวียน จำนวน ๔๗ โครงการ เป็นเงิน ๕,๒๖๕,๓๕๐ บาท และประเภทเงินทุนอุดหนุน จำนวน ๗ โครงการ เป็นเงิน ๕๘๐,๓๕๐ บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๕,๘๔๕,๗๐๐ บาท ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งหวังให้สตรีทุกท่านได้นำกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว และชุมชน ให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
“สำหรับสมาชิกกองทุนฯ ที่สนใจยื่นเสนอโครงการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักคุ้มครองสวัสดิภาพชุมชน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จะดำเนินการพิจารณาโครงการของสมาชิกภายในวันที่ ๒๐ ของทุกเดือน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและให้คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาอนุมัติและนัดสมาชิกกองทุนฯ ทำสัญญากู้และค้ำประกัน สมาชิกสามารถติดตามผลการอนุมัติโครงการได้ที่ www.womenfundbkk.com เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือสำหรับสตรีที่มีความเข้มแข็ง เพื่อสร้างสรรค์พลังสตรี ให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป” นายอนุสรณ์ กล่าวทิ้งท้าย