เศรษฐกิจไทยโตชะลอ กดดอกเบี้ยทรงตัว บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลแนะกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางน่าสนใจกว่ากองทุนตราสารหนี้ 6 — 12 เดือน

อังคาร ๑๓ สิงหาคม ๒๐๑๓ ๑๔:๔๔
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บริษัทในกลุ่มซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาด เห็นได้จากภาคการบริโภคที่เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนจากยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวลดลงกว่า 10% และการปรับลดลงของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็เริ่มชะลอตัวเช่นกัน โดยการนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุน และการอนุมัติพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ๆ ที่เริ่มเติบโตน้อยลง ภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์สูงน่าจะทำให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และทำให้ยอดขายรถยนต์ รวมถึงอสังหาฯ ไม่โตมากเหมือนในอดีต 1 — 2 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยโดยรวมน่าจะยังเติบโตได้ปานกลาง ไม่สูงมากเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำเพียงประมาณ 2% ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อของไทย โดยบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับลดลงได้อีกเล็กน้อยในปีข้างหน้า ซึ่งภาวะตลาดลักษณะนี้เหมาะกับการลงทุนในตราสารหนี้อายุประมาณ 2 — 3 ปีน่าจะให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เนื่องจากได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าในกรณีที่ดอกเบี้ยทรงตัว และอาจมีกำไรจากการลงทุนหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง

นายอุดมการ อุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า บริษัทจัดการมีความเชื่อว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางในระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปีขึ้นไป เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวซึ่งดีกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทจัดการเลือกที่จะไม่ออกกองทุนตราสารหนี้ประเภท Term Fund แต่จะให้คำแนะนำนักลงทุน ลงทุนใน “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี- พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iFIXED)” ซึ่งเป็นกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะกลางอายุเฉลี่ย 2 ปี จุดเด่นของ กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED คือ มีการกระจายการลงทุน (Diversification) มากกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภท Term Fund ซึ่งมักจะลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 4-5 บริษัท และผู้ลงทุนยังมีสภาพคล่องสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวัน ซึ่งกอง Bond Fund ลักษณะนี้ในต่างประเทศเป็นที่นิยมแนะนำให้ลูกค้าถือเป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุน ( Core Investment) โดยประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดกองทุนในประเทศอเมริกาก็เป็นกองทุนประเภทนี้

ปัจจุบันกองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED เปิดให้ลงทุนในลักษณะแบบ Multi Share Class 2 ชนิด คือ 1. Class A -Accumulation เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยหรือบริษัทที่ต้องการสะสมมูลค่าจากดอกเบี้ยและ Capital Gain 2. Class R -Auto Redemption เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการแบ่งรายได้แบบสม่ำเสมอผ่านการ Auto Redemption โดยมูลค่ากองทุนรวมทุก share class อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถซื้อ — ขายได้ทุกวันและเวลาทำการ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595

www.cimb-principal.com หรือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย 0 2626 7777 กด 0 www.cimbthai.com

***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน