“ออมรู้สึกดีใจ และภูมิใจกับรางวัลชนะเลิศที่ออมสามารถชนะใจคนดูและชนะใจกรรมการในวันนี้มากค่ะ ตอนแรก ออมทราบข่าวการประกวดจาก Facebook ค่ะ ออมก็เลยรีบไปปรึกษาคุณแม่ว่าออมจะประกวดดีไหม เพราะคุณแม่ทราบว่าออมรักการร้องเพลงมากๆ แล้วโอกาสที่ออมจะได้เข้าประกวดก็มีไม่มากนัก เพราะออมเองก็ยังเรียนอยู่ คุณแม่จึงบอกกับออมว่า ถ้าออมรู้จักแบ่งเวลาเรียนกับซ้อมร้องเพลงได้ คุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร ออมมองว่านี่เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตออม ออมอยากจะคว้ามันไว้ และทำมันให้ที่สุด เพื่อตัวออมเอง และก็คุณแม่ที่อยู่ข้างๆ ออมมาตลอดค่ะ” น้องออม กล่าวด้วยความภูมิใจ
มาต่อกันที่สาวน้อยผู้น่ารักกับอูคูเลเล่ข้างกาย อย่าง “น้องซิดนี่ย์” หรือเด็กหญิงเวธกา วสุรัตต์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ กับอีกหนึ่งความภาคภูมิใจใน รางวัลชนะเลิศ ประเภทเล่นดนตรี ซึ่งน้องซิดนี่ย์ก็ได้นำอูคูเลเล่คู่ใจ มาร่วมแสดงฝีไม้ลายมือที่เก่งเกินวัย จนกรรมการและเหล่าผู้ชมในงานต่างก็ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว
“สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ซิดนี่ย์ได้รางวัลในวันนี้ ซิดนี่ย์คิดว่าเป็นเพราะการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ บวกกับคุณพ่อที่พยายามหาการประกวดในเวทีต่างๆ มาให้ซิดนี่ย์ได้เข้าร่วม เพราะทุกครั้งที่มีการประกวด ซิดนี่ย์จะซ้อมหนักและกระตือรือร้นมากกว่าปกติค่ะ อย่าไปมองว่าเป็นเวทีใหญ่หรือเล็ก เพราะทุกเวที ก็คือโอกาสที่ดีที่สุดที่ซิดนี่ย์จะได้พัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ” น้องซิดนี่ย์ กล่าว
ปิดท้ายกันที่ก๊วนหนุ่มสาว ทีม GGB SO HI ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ น้องมิวลี่ หรือเด็กหญิงปิยพัชร์ จิรสินรัตนมณี ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอุดมศึกษากรุงเทพฯ น้องฟลุค หรือเด็กหญิงกังสดาล แก้วพูนทรัพย์ ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเซนโยเซฟสมุทรปราการ น้องหลิวว์ หรือเด็กหญิงลภัสธดา โรจน์รุ่งทวี ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา และหนุ่มน้อยหนึ่งเดียวของทีม น้องดรณ์ หรือเด็กชายกร คุ้มราช ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรีวิทยา กรุงเทพฯ ทั้ง 4 ได้โชว์ลีลาสเต็ปแดนซ์สุดมันส์ในสไตล์เด็กชาวเขา สามารถเรียกเสียงปรบมือจากกรรมการและผู้ชมรอบเวทีได้อย่างท่วมท้น จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทเต้นรำ มาอย่างขาดลอย
“ตอนนี้พวกเรา 4 คนเรียนคนละโรงเรียนกันค่ะ มารวมตัวกันได้ เพราะมีใจรักในการเต้นเหมือนๆ กัน ก็เลยรวมกลุ่มกันเป็นทีม แล้วก็เรียนเต้นซ้อมเต้นมาด้วยกัน ลงประกวดในเวทีต่างๆ มาด้วยกัน ชนะบ้าง แพ้บ้าง ก็มองกันว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างประสบการณ์ค่ะ เพราะว่าทุกเวทีที่เราได้ผ่านมาด้วยกันนั้น เป็นประสบการณ์ที่ไม่ว่าเราจะซ้อมหนักแค่ไหน เราก็ไม่สามารถที่จะหามาได้ค่ะ” น้องมิวลี่ กล่าว
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสมาชิกในทีมอย่าง น้องกรณ์ ก็ยังได้กล่าวฝากถึงเพื่อนๆ ทางบ้านอีกด้วยว่า
“ฝากถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ทางบ้านนะครับ ถ้าใครที่มีความสามารถ แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อม หรือยังไม่กล้า หรือคิดว่าโอกาสดีๆ ทำไมไม่เคยเข้ามาหาเราเลย อยากให้เพื่อนๆ เปลี่ยนความคิดใหม่ครับ ลองหันมองดูรอบๆ ตัวเราก่อนเลยครับ โอกาสมันมีอยู่รอบตัวเราเสมอ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเท่านั้นครับว่าเราจะคว้ามันเอาไว้หรือเปล่า และเมื่อคว้ามันได้ ขอให้สู้สุดใจ สุดพลัง แล้วสักวันหนึ่งจะเป็นวันของเราครับ” น้องกรณ์ กล่าวให้กำลังใจ
นี่เป็นเพียง 3 เสียงเล็กๆ ที่มาพร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ ในการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความฝัน พร้อมเดินหน้าวิ่งหาโอกาส เพราะโอกาสไม่ได้วิ่งไปหาทุกคนถึงหน้าบ้านเสมอไป เพียงแค่เรามีความฝัน มีความมุ่งมั่น พยายามและตั้งใจจริง ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม