การปรับภาพลักษณ์ใหม่ครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี ของห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า

พฤหัส ๒๒ สิงหาคม ๒๐๑๓ ๑๕:๐๑
ห้างยักษ์ใหญ่เมืองย่าโม ‘คลังพลาซ่า โคราช’ ทุ่มงบกว่า 3,500 ล้านบาทเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเต็มสูบ ปรับโฉมใหม่ ‘คลังพลาซ่า จอมสุรางค์’ เป็นแห่งแรกพร้อมเดินหน้าขยายสาขาครบ 5 แห่ง คาดแล้วเสร็จรายได้ธุรกิจพุ่งกว่า 150%หวังเบียดคู่แข่งก้าวขึ้นแท่นห้างอันดับหนึ่งในใจคนโคราช เตรียมพร้อมโกอินเตอร์เปิดประตูสู่อาเซียน

‘คลังพลาซ่า โคราช’ ห้างยักษ์ใหญ่แห่งเมืองย่าโม ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด ออกตัวแรงแซงห้างค้าปลีกเมืองกรุง ประกาศจุดยืนทางการตลาด ขอเป็นห้างค้าปลีกที่ทันสมัยและครบวงจร ด้วยการอัดงบลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาธุรกิจเต็มสูบกับแผนงานการปรับภาพลักษณ์ใหม่ โดยเริ่มที่ ‘คลังพลาซ่า จอมสุรางค์’ เป็นแห่งแรก ชูความล้ำสมัยสไตล์โมเดิร์นระดับสากลทุกชั้นทุกแผนก ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ พร้อมแผนขยายสาขาที่ 4 และ 5 ภายใน 5 ปี คาดรายได้รวมธุรกิจหลังการปรับโฉมใหม่ ‘คลังพลาซ่า จอมสุรางค์’ เพิ่มขึ้นกว่า 40% และรายได้รวมหลังการปรับภาพลักษณ์และขยายสาขาแล้วเสร็จพุ่งสูงกว่า 150% หวังเบียดคู่แข่งก้าวขึ้นแท่นห้างอันดับหนึ่งในใจคนโคราช พร้อมเตรียมพร้อมเปิดประตูสู่อาเซียนในการเปิด AEC ในปี 2558

นายไพจิตร มานะศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารงานห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่แห่งเมืองโคราช ‘คลังพลาซ่า’ เปิดเผยว่า “จากการดำเนินงานด้านค้าปลีกในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมามานานกว่า 56 ปี ซึ่งมีการขยายสาขารวม 3 แห่งในจังหวัด ได้แก่ คลังพลาซ่า สาขา 1 ถนนอัษฎางค์ , คลังพลาซ่า สาขา 2 ถนนจอมสุรางค์ และคลังวิลล่า สาขา 3 ถนนสุรนารายณ์ โดย ‘ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า’ นับได้ว่าป็นธุรกิจท้องถิ่นที่มีความเข็มแข็ง และประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและการได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในเมืองโคราช และนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน สังเกตได้จากยอดผลประกอบการรวมทางธุรกิจในปี 2555 ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงกว่า 11% และผลประกอบการรวมทางธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2556 (ม.ค. — มิ.ย. 2556) ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์การทำงานของ ‘คลังพลาซ่า’ ที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้งมีการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดค้าปลีกอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด รวมทั้งมีการปรับตัวทางธุรกิจที่รวดเร็วเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน”

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558 ทีมบริหาร ‘คลังพลาซ่า’ ได้กำหนดทิศทางทางการตลาดที่ชัดเจนให้กับธุรกิจเป็น 2 ส่วนหลักๆ เริ่มต้นด้วย 1) แผนการปรับภาพลักษณ์ใหม่สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นปรากฎการณ์ทางธุรกิจที่สำคัญของ ‘คลังพลาซ่า’ ในรอบ 20 ปี เพื่อให้ ‘คลังพลาซ่า’ มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน โดยเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีความทันสมัยครบวงจร สอดรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ เพื่อทำหน้าที่เป็นประตูเปิดสู่การค้าการลงทุนสำหรับตลาดอาเซียนในอนาคต และ 2) แผนการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ในเมืองโคราช ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยภายในปี 2558 จะดำเนินการเปิดในรูปแบบClose มอลล์ 1 แห่งก่อน ในงบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งทิศทางทาง

การตลาดข้างต้นเป็นผลมาจากการศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภค

ของกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด รวมทั้งได้ศึกษาวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจในระยะ 3-5 ปีนับจากนี้ ซึ่งได้พบข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางและโอกาสการขยายตัวของเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมสำหรับการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจในทุกๆ ด้านที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพมหานคร และผ่านออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม นอกจากนี้จังหวัดนครราชสีมายังมีแผนงานการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศที่สามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ หมายเลข 6 (สายบางปะอิน-โคราช) ขณะที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร นครราชสีมา กำลังขยายการก่อสร้างเฟสที่ 3 ซึ่งจะมีแรงงาน ผู้ประกอบการ นักลงทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นและมีการขยายกิจการมากขึ้นด้วย และล่าสุดคณะนักลงทุนจากยุโรปและอเมริกาได้เข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานที่โคราช ทำให้เกิดการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างคึกคัก มีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพฯ มาลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาและเหตุผลของการปรับทิศทางทางการตลาดทั้ง 2 ส่วนที่ได้กล่าวในข้างต้น

“จากทิศทางทางการตลาดที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนทั้ง 2 ส่วน ไม่ว่าจะเป็น แผนการปรับภาพลักษณ์ใหม่สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน และ แผนการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปี 2558 คลังพลาซ่า จึงได้กำหนดกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามทิศทางทางการตลาดที่กำหนดไว้ นั่นคือ การขจัดจุดอ่อนของธุรกิจ และแปรเปลี่ยนให้เป็นจุดแข็ง ซึ่งทีมบริหารห้างฯ จะให้ความสำคัญกับการพิจารณาหาจุดอ่อนของธุรกิจในด้านต่างๆ เพื่อหาวิธีการปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นจุดแข็งทางธุรกิจในที่สุด” นายไพจิตร กล่าว

ทั้งนี้ ‘คลังพลาซ่า’ ได้เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนทั้งโลโก้ รวมทั้งภาพลักษณ์และรูปโฉมใหม่ที่มีความทันสมัยครบวงจร สอดรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ และรองรับการขยายตัวของกำลังซื้อที่เป็นคนในพื้นที่และคนต่างพื้นที่ โดยเลือก ‘คลังพลาซ่า สาขา จอมสุรางค์’ เป็นสาขานำร่อง โดยจะขยายพื้นที่ของห้างฯเพิ่มขึ้น 33% จากเดิม 20,000 ตร.ม. เป็น 30,000 ตร.ม. อีกทั้งเพิ่มพื้นที่จอดรถ และเพิ่มร้านค้า ร้านอาหารซึ่งเป็นที่นิยมอีกกว่า 16 ร้านค้า (รายละเอียดการปรับภาพลักษณ์ใหม่เพิ่มเติมตามเอกสารแนบ) ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาการดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 13 เดือน คือ กำหนดเปิดให้บริการสำหรับรูปโฉมใหม่แบบเต็มรูปแบบ ในวันที่ 9 ก.ย. 2557

“เรากำหนดงบประมาณสำหรับการปรับภาพลักษณ์ของสาขานำร่องไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 2,500 ล้านบาท เราจะจัดสรรเพื่อใช้ในการปรับภาพลักษณ์ของอีก 1 สาขา และสำหรับสาขาที่มีแผนจะเปิดใหม่อีก 1 แห่งภายในปี 2558 เพื่อเตรียมพร้อมรับการการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งเราวางคอนเซ็ปต์ของ ‘คลังพลาซ่า จอมสุรางค์’ ไว้เป็น ‘The Infinite Knowledge’ หรือ ‘ศูนย์การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด’ โดยมีการออกแบบโลโก้ใหม่ให้สอดคล้อง

กับคอนเซ็ปต์ คือมีลักษณะคล้ายกับสันหนังสือ 9 ชั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนชั้นของห้างฯ โดยใช้สีสันที่หลากหลายบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร ทั้งนี้ภายในห้างจะประกอบด้วยส่วนของร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ ธนาคาร และสวนสนุก เพื่ออำนวยความสะดวกและเติมเต็มให้คลังพลาซ่า เป็นศูนย์รวมความรู้และความบันเทิงแบบครบวงจร ซึ่ง ณ ขณะนี้มีกลุ่มผู้เช่า ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำที่เซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ ‘คลังพลาซ่า สาขาจอมสุรางค์’ แล้วประมาณ 7 แบรนด์ อาทิ เอ็มเค สุกี้, ยาโยอิ, ฮาจิบัง ราเมน, ซัมซุง, ไอ-สตูดิโอ ,สตาร์บัคส์ โดยเราคาดหวังว่ารายได้รวมของธุรกิจหลังการปรับโฉมใหม่ ‘คลังพลาซ่า จอมสุรางค์’ จะเพิ่มขึ้นกว่า 40% หรือประมาณ 2,100 ล้านบาท อีกทั้งรายได้รวมหลังการปรับภาพลักษณ์และขยายสาขาทั้งหมดแล้วเสร็จจะพุ่งสูงกว่า 150% ส่งผลให้ ‘คลังพลาซ่า’ ก้าวขึ้นแท่นห้างอันดับหนึ่งในใจคนโคราชในที่สุด” นายไพจิตร กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง