No Country: ศิลปะร่วมสมัยเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค้นหาความแตกต่างทางวิธีปฏิบัติของศิลปะร่วมสมัยในภูมิภาค
นิทรรศการ: No Country: ศิลปะร่วมสมัยเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถานที่: Asia Society Hong Kong Center, 9 Justice Drive, Admiralty, Hong Kong
วันที่: 30 ตุลาคม 2013 — 16 กุมภาพันธ์ 2014
รอบสื่อมวลชน: วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2013 เวลา 14.30 น.
ทาง Asia Society Hong Kong Center จะจัดแสดง No Country: ศิลปะร่วมสมัยเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทัวร์เปิดตัวนิทรรศการ Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2013 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2014 จัดแสดงผลงานล่าสุดของ 13 ศิลปินจากบังกลาเทศ กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเชีย มาเลเซีย พม่า ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม No Country เป็นการนำเสนอส่วนหนึ่งของทรรศนะที่ทรงพลังและล้ำสมัยที่สุดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน นิทรรศการแห่งนี้เปิดตัวครั้งแรกในนิวยอร์ก ที่ Solomon R. Guggenheim Museum (22 กุมภาพันธ์ — 22 พฤษภาคม 2013) ในฐานะส่วนหนึ่งของ Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระยะเวลานานหลายปี เพื่อบันทึกวิธีปฏิบัติของศิลปะร่วมสมัยในสามภูมิภาคทางภูมิศาสตร์—เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ—และยังมีการจัดสถาบันฝึกอบรมภัณฑารักษ์ นิทรรศการท่องเที่ยวนานาชาติ โปรแกรมการศึกษาที่ดำเนินโดยผู้ชม และการเพิ่มคอลเลคชันถาวรของ Guggenheim ผลงานทั้งหมดนี้ เป็นชิ้นงานใหม่ที่รวบรวมมาไว้ในคอลเลคชันของ Guggenheim ภายใต้การอุปถัมภ์จากกองทุนจัดซื้อของ Guggenheim UBS MAP หลังการจัดแสดงในฮ่องกง นิทรรศการนี้จะย้ายไปจัดแสดงต่อที่สิงคโปร์
(ภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130903/DC71143 )
No Country: ศิลปะร่วมสมัยเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูแลการจัดแสดงโดย June Yap ภัณฑารักษ์ของ Guggenheim UBS MAP เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้ช่วยคือ Helen Hsu ผู้ช่วยภัณฑารักษ์จากพิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim และได้รับคำปรึกษาจาก Alexandra Munroe ภัณฑารักษ์อาวุโสของ Samsung ในด้านศิลปะเอเชีย พิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim Nancy Spector รองผู้อำนวยการ และ David Stockman หัวหน้าภัณฑารักษ์ประจำมูลนิธิ Solomon R. Guggenheim นิวยอร์ก และ Joan Young ผู้อำนวยการงานภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim เป็นผู้ควบคุมดูแลงานภัณฑารักษ์ทั้งโครงการตลอดช่วงเวลาหลายปี Dominique Chan ภัณฑารักษ์นิทรรศการ และ Sharon Chan เจ้าหน้าที่งานภัณฑารักษ์จาก Asia Society Hong Kong Center จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ June Yap และทีมงานภัณฑารักษ์ของ Guggenheim ในการจัดแสดงนิทรรศการในฮ่องกง
ภาพรวมของนิทรรศการ
งานนิทรรศการนี้—ใช้ชื่อซึ่งหยิบยกมาจากวรรคแรกในบทกวี “Sailing to Byzantium” ของ W.B. Yeats (1928) โดย Cormac McCarthy ก็เคยนำประโยคดังกล่าวไปใช้เป็นชื่อนิยาย No Country for Old Men (2005) เช่นเดียวกัน—เป็นการนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่จำกัดอยู่แค่พรมแดนทางกายภาพและการเมือง เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีความเป็นมายาวนานนับแต่สมัยอาณาจักรและจักรวรรดิโบราณ มาจนถึงการจัดตั้งรัฐประเทศแบบในปัจจุบัน ภูมิภาคแห่งนี้แฝงไปด้วยร่องรอยแห่งการล่าอาณานิคม การแบ่งแยก การแทรกแซง เหตุการณ์ และกระบวนการต่าง ๆ ที่จารึกอยู่ในความทรงจำทางวัฒนธรรม เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นจุดกำเนิดของความศรัทธา ศาสนา และหลักศีลธรรมที่มีความสำคัญจำนวนมาก ทั้งศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และศาสนาอิสลาม
การปรับเปลี่ยนจากความร่วมมือกับทาง Asia Society Hong Kong Center รวมกับธีมหลักในการนำเสนอทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการเมืองของนิทรรศการที่นิวยอร์ก ทำให้การจัดแสดงในฮ่องกงเน้นไปที่อิทธิพลของคำสอนทางศีลธรรมและความเชื่อด้านจิตวิญญาณของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อการหล่อหลอมสังคมในภูมิภาค No Country เป็นการค้นหาความแตกต่างของวิธีปฏิบัติทางศิลปะร่วมสมัย ในภูมิภาคที่มีความหลากหลายนี้ และแสดงให้เห็นว่า วิธีนำเสนอของศิลปินในนิทรรศการนี้ ไม่ใช่แค่การนำเสนอเพียงส่วนหนึ่งเพื่อสะท้อนลักษณะที่ชัดเจนและผลกระทบของความเชื่อเท่านั้น
ในนิทรรศการมีการจัดแสดงผลงาน 18 ชิ้น โดย ศิลปิน13 คน ซึ่งประกอบด้วย ภาพวาด งานแกะสลัก ภาพถ่าย วิดีโอ และสื่อผสม ศิลปินที่เข้าร่วมการจัดแสดงในฮ่องกงได้แก่: Aung Myint (เกิดปี 1946, กรุงย่างกุ้ง, พม่า), Bani Abidi (เกิดปี 1971, เมืองการาจี, ปากีสถาน), Reza Afisina (เกิดปี 1977, เมืองบันดุง, อินโดนีเชีย), Khadim Ali (เกิดปี 1978, เมืองเควตตา, ปากีสถาน), Shilpa Gupta (เกิดปี 1976, เมืองมุมไบ, อินเดีย), Vincent Leong (เกิดปี 1979, กรุงกัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย), Tayeba Begum Lipi (เกิดปี 1969, เมืองไกบันธา, บังกลาเทศ), Tuan Andrew Nguyen (เกิดปี 1976, กรุงไซงอน, เวียดนาม), Araya Rasdjarmrearnsook (เกิดปี 1957, จังหวัดตราด, ไทย), Vandy Rattana (เกิดปี 1980, กรุงพนมเปญ, กัมพูชา), Norberto Roldan (เกิดปี 1953, เมืองโรซัสซิตี, ฟิลิปปินส์), Tang Da Wu (เกิดปี 1943, ประเทศสิงคโปร์) และ Truong Tan (เกิดปี 1963, กรุงฮานอย, เวียดนาม)
การขยายการสนทนา ทั้งสถานที่จริงและออนไลน์
เพื่อบรรลุส่วนหนึ่งของภารกิจอันได้แก่การสนับสนุนการสนทนาข้ามวัฒนธรรมเกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัยและวิธีปฏิบัติทางวัฒนธรรม Guggenheim ได้นำเสนอการอภิปรายและการแสดงความคิดเห็นที่ครอบคลุมและล้ำสมัย ด้วยความร่วมมือจากนักการศึกษาประจำ Asia Society Hong Kong Center โปรแกรมนี้มีความมุ่งมั่นที่จะมอบ โอกาสในการเรียนรู้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มคนที่มีทัศนคติและความสนใจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น ครอบครัว หรือผู้ใหญ่ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่มีคุณค่าจากโปรแกรมของ Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative ด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและอาชีพ การมีส่วนร่วมโดยตรงของศิลปิน การนำเทคโนโลยีเข้ามาบูรณาการในเชิงสร้างสรรค์ และโปรแกรมที่ครอบคลุมด้านทัศนศิลป์ โปรแกรมการศึกษานี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการอภิปรายระดับนานาชาติที่มีความสำคัญสำหรับการตั้งกระทู้ถามและสนทนา เยี่ยมชม guggenheim.org/MAP
เกี่ยวกับ Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative
ภายใต้แนวคิดที่ต้องการรวมกลุ่มผู้ชมต่างๆ ได้แก่ ศิลปิน ภัณฑารักษ์ และนักการศึกษา Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative มุ่งมั่นที่จะกระตุ้นให้เกิดการสนทนา และการมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ยาวนานของสถาบัน ศิลปิน นักวิชาการ ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ และชุมชนออนไลน์ โปรแกรมนี้เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2012 โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นสากลที่โดดเด่นของมูลนิธิ Solomon R. Guggenheim และเพื่อเพิ่มจำนวนงานศิลปะของ Guggenheim อย่างมีนัยสำคัญจากบรรดาชุมชนที่หลากหลายเหล่านี้
เว็บไซต์โครงการ: guggenheim.org/MAP
เว็บไซต์ศูนย์ Asia Society Hong Kong: asiasociety.org/hong-kong
สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Guggenheim UBS MAP Global Art Initiative โปรดติดตาม #GuggUBSMAP บน Twitter
แหล่งข่าว: Solomon R. Guggenheim Foundation