พม. จัดอบรมหลักสูตร “ภูมิปัญญาผู้สูงวัยใจอาสา ร่วมพัฒนาสังคม”

ศุกร์ ๐๖ กันยายน ๒๐๑๓ ๑๑:๑๓
วันนี้ (๕ ก.ย. ๕๖) เวลา ๑๑.๐๐ น. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีปิด และมอบวุฒิบัตรแก่แกนนำคลังปัญญาผู้สูงอายุ ๗๖ จังหวัด และ ๕๐ เขตในกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น ๑๒๖ คน ที่ผ่านการอบรมหลักสูตร “ภูมิปัญญาผู้สูงวัยใจอาสา ร่วมพัฒนาสังคม” ณ ห้องปริ๊นซ์บอลรูม ๑ ชั้น ๑๑ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ

นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาสังคมได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมีความซับซ้อน รุนแรง และแพร่กระจายเข้าถึงประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานภาพ ไม่จำกัดพื้นที่แม้แต่ในครัวเรือน เมื่อเกิดปัญหาแก่บุคคลใดจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สถานะทางเศรษฐกิจของบุคคลและสมาชิกครอบครัวอีกหลายคนเป็นลูกโซ่ บั่นทอนการพัฒนาประชาชนซึ่งเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาประเทศ รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ตระหนักในความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC ๑๓๐๐ เพื่อสร้างระบบบริการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างบูรณาการ ณ จุดเดียวโดยเน้นให้เกิดการรับรู้ปัญหาที่ฉับไว เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที และสามารถทำงานเชิงคุ้มครองป้องกันปัญหา โดยให้ความสำคัญกับพลังอาสาสมัคร ทำงานคู่ขนานกับภาครัฐเพื่อร่วมกันขจัดปัญหาสังคมให้หมดสิ้นดูแลประชาชนทุกช่วงวัย

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนกลไก ภาคประชาชนให้เป็นอาสาสมัคร ได้ให้ความสำคัญกับพลังความร่วมมือของประชาชน โดยเฉพาะพลังของผู้สูงอายุ เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของชุมชนได้รู้ได้เห็นมาโดยตลอด ประกอบกับ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่ในวัยที่พ้นจากภาระการประกอบอาชีพหารายได้แล้ว และมักเป็นผู้ที่มีจิตสาธารณะพร้อมที่จะเป็นผู้ให้แก่ผู้อื่น ทั้งเวลา ทรัพย์ และโอกาส ตลอดจนภูมิปัญญาที่สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมการถ่ายทอดให้ผู้สนใจเพื่อพัฒนาอาชีพสร้างรายได้ ฟื้นฟูสภาพให้สามารถพึ่งตนเองได้อีกด้วย จึงได้จัดอบรมแกนนำคลังปัญญาผู้สูงอายุ ๗๖ จังหวัด และ ๕๐ เขต ในกรุงเทพฯ รวม ๑๒๖ คน เพื่อให้เป็นภาคีหลักนำความรู้ไปขยายผลสู่การจัดอบรมอาสาสมัคร “ภูมิปัญญาผู้สูงวัยใจอาสา ร่วมพัฒนาสังคม”ณ ภูมิลำเนาในของตนเองต่อไป

“ปัญหาสังคมไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือปัญหาของรัฐแต่เพียงลำพัง เพราะ จะไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับรู้ปัญหา และเห็นเหตุการณ์ความรุนแรง หรือเรื่องละเมิดที่กำลังเกิดขึ้นกับเด็ก สตรี ผู้ตกเป็นเหยื่อในแต่ละชุมชนได้ จึงไม่สามารถจัดสรรคนเข้าไปช่วยเหลือได้ฉับพลันทันต่อปัญหา ใครจะรู้ปัญหาชุมชนได้ดีเท่าคนในชุมชนเอง ซึ่งหากได้เติมเต็มองค์ความรู้ให้อาสาสมัครในชุมชนได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ได้เรียนรู้กรณีตัวอย่าง (CASE Study) ที่หลากหลายก็เท่ากับเราได้เสริมพลังภาคสังคมให้แข็งแกร่ง สามารถชี้เป้าเฝ้าระวังภยันตรายและช่วยขจัดภัยร้ายที่คุกคามสังคมให้สิ้นไปได้” นายอนุสรณ์ กล่าวตอนท้าย.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน
๑๗:๒๔ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือกองปราบฯ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา งัดกฎหมายที่เกี่ยวข้องปราบผู้กระทำผิด
๑๗:๐๘ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๐๒ NPS สนับสนุนการปรับปรุงระบบไฟฟ้า โรงเรียนวัดหลังถ้ำวิทยาคาร
๑๗:๔๑ บางจากฯ จัดโปรแรงต่อเนื่อง จันทร์สีม่วง ลดราคาเฉพาะน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม ทุกวันจันทร์ ระหว่างวันที่ 5 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68
๑๗:๓๐ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมราชทัณฑ์ จัดงานรวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม
๑๗:๑๑ ผมสวยท้าร้อน BSC hair Spray บำรุงยาวนาน ด้วยสูตร Aqua Moist
๑๗:๒๘ เตรียมพบกับปรากฏการณ์ศิลปะครั้งสำคัญ @ช่างชุ่ย นิทรรศการเดี่ยวในรอบ 9 ปี ของ Linecensor ARCH OF LINECENSOR PART 1: PERFECT
๑๗:๒๐ Tastes of May ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา 3 เสาร์ 3 สไตล์ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
๑๗:๔๕ อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่ 1-31