รพ.มนารมย์แนะพ่อแม่ ใช้ “ธรรมชาติและศิลปะ” สร้างความสมดุลให้ชีวิตเด็ก

ศุกร์ ๐๖ กันยายน ๒๐๑๓ ๑๕:๒๓
นักศิลปะบำบัด โรงพยาบาลมนารมย์ ชวนพ่อแม่ยุคใหม่จูงมือลูกน้อยใช้ชีวิตกลางแจ้ง เพื่อสัมผัสแสงสีในธรรมชาติ พัฒนากระบวนการสร้างประสาทสัมผัสที่มีประสิทธิภาพ ปูทางสร้างความสมดุลให้จิตใจ จุดเริ่มต้นสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งกายและใจ

นายอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี นักศิลปะบำบัด โรงพยาบาลมนารมย์ โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต เปิดเผยว่า “Sense” หรือ “ประสาทสัมผัส” เป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็ก เพราะประสาทสัมผัสคือการแสวงหาความรู้จริงให้ตนเองอย่างปราศจากความนึกคิด โดยเด็กในวัย 0 — 7 ปี เป็นช่วงที่ “ประสาทสัมผัสล่าง” หรือ “ประสาทสัมผัสในชุดแรก” กำลังพัฒนา ประกอบด้วย ประสาทสัมผัสสมดุล ประสาทสัมผัสของชีวิต ประสาทสัมผัสแห่งสัมผัส และประสาทสัมผัสการเคลื่อนไหว หากประสาทสัมผัสในช่วงวัยนี้ได้รับการพัฒนาผ่านกระบวนการที่เหมาะสม ก็จะส่งเสริมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งกายและใจ

“ประสาทสัมผัสเป็นพัฒนาการที่เป็นนามธรรม มองไม่เห็นด้วยตาแต่รู้สึกถึงได้ เช่น ประสาทสัมผัสแห่งสัมผัส จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กถูกพ่อแม่กอด เด็กจะรับรู้ถึงความอบอุ่นที่แท้จริง เกิดความไว้วางใจในตัวพ่อแม่ซึ่งเป็นผลจากสัมผัสที่ได้รับขณะถูกกอด ช่วยให้เด็กจะเติบโตไปด้วยจิตใจที่มั่นคง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กก็มีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสเช่นกัน โดยเด็กที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวทั้ง ดิน น้ำ อากาศ และแสงแดด จะได้รับสีและแสงที่มีความนุ่มนวล ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีสมาธิ มีอารมณ์ที่สงบ รู้จักการรอคอย และจิตใจนุ่มนวล แตกต่างจากเด็กที่อยู่ในสถานที่อึกทึกครึมโครมที่มักจะมีพฤติกรรมซุกซน ไม่อยู่นิ่ง ตื่นตัวตลอดเวลา และมีอารมณ์ไม่สงบ เป็นต้น ซึ่งพัฒนาการของเด็กไม่ว่าจะเป็นด้านใดหากมีจุดเริ่มต้นที่ดี ก็จะส่งผลให้พัฒนาการในลำดับต่อไปมีคุณภาพ” นายอนุพันธ์อธิบาย

นักศิลปะบำบัดจากโรงพยาบาลมนารมย์ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า “การระบายสี” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่จะช่วยสร้างความสมดุลให้แก่เด็กได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะสีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก เช่น สีเหลืองให้ความรู้สึกร่าเริง สีส้มให้ความรู้สึกอุ่น และสีน้ำเงินให้ความรู้สึกเงียบ เป็นต้น โดยสีน้ำเป็นสีที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะเมื่อใช้สีน้ำกับกระดาษเปียก สีจะซึมซับเข้าหากัน ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว โดยผู้ปกครองควรชักชวนให้เด็กระบายสีไปบนกระดาษ พร้อมเลือกใช้สีที่ไม่จ้าและเข้มเกินไป ซึ่งอาจใช้การเล่านิทานประกอบเป็นเครื่องมือชักชวนให้เด็กเกิดการสร้างจินตนาการ แล้วระบายสีไปตามที่คิด แต้ไม่ควรให้เด็กลงสีไปตามเส้นกรอบที่เป็นรูปร่างเพราะเป็นการส่งเสริมให้เด็กใช่ความคิดเร็วเกินไป

“ธรรมชาติและศิลปะ เป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่สามารถกระตุ้นและสร้างเสริมพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสให้เด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิต ซึ่งนำไปสู่ความสุขที่เกิดจะขึ้นจากภายใน ที่สำคัญธรรมชาติและศิลปะไม่ต้องเสียเงินไปแสวงหา แต่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ในรอบรั้วบ้านของคุณเอง” นายอนุพันธุ์กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง