ซันเจย์ ไมร์ชานดานี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปของวีเอ็มแวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ญี่ปุ่น

และผู้จัดการทั่วไปของวีเอ็มแวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ญี่ปุ่น

ไมร์ชานดานีมีประสบการณ์ 25 ปีในตลาดระหว่างประเทศ และ 11 ปีในตลาดเอเชียแปซิฟิก

เมืองพาโลอัลโต มลรัฐแคลิฟอร์เนีย 22 กันยายน 2556 — วีเอ็มแวร์, อิงค์. (NYSE: VMW ) ผู้นำระดับโลกในด้านการทำเวอร์ชวลไลเซชั่น และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคลาวด์ประกาศในวันนี้ว่าได้แต่งตั้งซันเจย์ ไมร์ชานดานีให้เป็นรองประธานอาวุโส และ ผู้จัดการทั่วไปเพื่อรับผิดชอบธุรกิจของวีเอ็มแวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป

ไมร์ชานดานีจะเข้ามารับตำแหน่งแทนแอนดรู ดัตตันที่ยังคงรับผิดชอบธุรกิจของวีเอ็มแวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นต่อไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 25456 หลังจากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีเขาก็จะร่วมเป็นพันธมิตรกับไมร์ชานดานีเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงการเป็นผู้นำเป็นไปอย่างราบรื่น ต่อจากนั้นดัตตันวางแผนที่จะเกษียณหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการร่วมงานกับวีเอ็มแวร์มา 5 ปี และยึดอาชีพที่เกี่ยวข้องกับไอทีมาถึง 30 ปี

วีเอ็มแวร์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น และปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าถึง 55,000 ราย โดยวีเอ็มแวร์มีพนักงานในภูมิภาคนี้ราว 3,700 คนที่ทำงานอยู่ในสำนักงานในประเทศต่างๆ ราว 50 แห่ง และมีเครือข่ายคู่ค้าประมาณ 10,000 ราย วีเอ็มแวร์รายงานว่าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 สามารถทำรายได้ทั่วโลกถึง 1.24 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราการเติบโตปีต่อปีที่ร้อยละ 11

คาร์ล เอสเชนบีช ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า "ซันเจย์ ไมร์ชานดานี จะเข้าไปรับดูแลกิจการของวีเอ็มแวร์ที่กำลังดำเนินงานอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างเร็วที่สุดของเรา โอกาสที่ยิ่งใหญ่กำลังกำลังรออยู่ข้างหน้าสำหรับวีเอ็มแวร์ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของซันเจย์ ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการไอทีและธุรกิจ — รวมถึงความเข้าใจในตลาดเอเชียแปซิฟิกอย่างลึกซึ้งของเขาจะช่วยสานต้อความสำเร็จที่แอดดรูทำเอาไว้ให้มากยิ่งขึ้น ผมอยากขอขอบคุณแอนดรูสำหรับความทุ่มเทและมุ่งมั่นที่มีต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา"

ไมร์ชานดานีมีประสบการณ์ด้านการให้คำปรึกษา และไอทีในธุรกิจระหว่างประเทศ 25 ปี รวมทั้งใช้เวลาทำงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 11 ปี โดยก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับวีเอ็มแวร์ เข้าทำงานกับอีเอ็มซีในฐานะรองประธานบริหาร ฝ่ายบริการองค์กรทั่วโลกที่ช่วยทำให้ตลาดของอีเอ็มซีขยายตัวอย่างรวดเร็ว และทำให้ได้ลูกค้าทั่วโลก

เขาเข้าร่วมงานกับอีเอ็มซีในปี 2549 และมีบทบาทหน้าที่หลายอย่าง รวมถึงการเป็นซีไอโอที่ทำให้หน่วยงานไอทีของบริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศในฐานะที่ใช้เวลาหลายปีในการทำเวอร์ชวลไลเซชั่นถึงร้อยละ 92 และสร้างไพรเวทคลาวด์ชั้นยอด ในช่วง ระยะเวลาเดียวกันเขาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์แห่งความเป็นเลิศระดับโลก (Global Centers of Excellence) ของอีเอ็มซีที่มีอยู่ 7 แห่ง ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นประธานตลาดเกิดใหม่ และการพัฒนาระหว่างประเทศของอีเอ็มซี เขายังรักษาตำแหน่งแชมป์ในการสร้างโอกาสในการเติบโตทั่วโลกโดยให้ความสำคัญกับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ไมร์ชานดานีเคยทำหน้าที่เป็นรองประธานประจำภูมิภาคของไมโครซอฟท์ในส่วนงานบริการองค์กร (Enterprise Services) ในเอเชีย โดยทำงานร่วมกับลูกค้า และคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งด้านการจัดการอื่นๆ อีกมากมายที่ไมโครซอฟท์ ซึ่งรวมถึง ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประธานภูมิภาคเอเชียใต้ และกรรมการผู้จัดการประจำประเทศอินเดีย

"ผมมีความยินดีที่ได้เข้ามามารับงานที่ท้าทายในการผลักดันให้วีเอ็มแวร์เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือการที่จะช่วยให้องค์กรของลูกค้าเปลี่ยนแปลงธุรกิจของพวกเขาโดยการก้าวสู่ยุคของระบบไอที่ที่อยู่ในรูปแบบของบริการ (IT- as-a —Service) " ซันเจย์ กล่าว "ผมอยากจะขอขอบคุณทีมงานของวรเอ็มแวร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น สำหรับการทำงาน ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรากฐานที่มั่นคง ซึ่งการที่เรามาอยู่ในตำแหน่ง นี้ช่วยให้เราสามารถพัฒนาธุรกิจ ของเราให้ก้าวต่อไป และฉกฉวยโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น เราไปในทิศทางที่เหมาะสม และผมหวังว่าจะนำทีมสร้างความสำเร็จมากขึ้น ในภูมิภาคนี้ซคางปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกลไกการเจริญเติบโตของวีเอ็มแวร์"

แอนดรู ดัตตัน กล่าวว่า " ซันเจย์มีประสบการณ์และความรู้ที่จำเป็นที่จะนำวีเอ็มแวร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นสู่โอกาสมากมายที่รออยู่ข้างหน้าในภูมิภาคอันน่าตื่นเต้นนี้ ผมภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับทีมงานที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ความรักและความ มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ"