ฟิทช์ให้อันดับเครดิตโครงการ GMTN ของธนาคารกรุงเทพที่ ‘BBB+’

พฤหัส ๒๖ กันยายน ๒๐๑๓ ๑๑:๐๘
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิต ‘BBB+’ แก่โครงการหุ้นกู้ Global Medium Term Note (GMTN) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ซึ่งมีมูลค่ารวม 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL (‘BBB+’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)

ในขณะเดียวกัน ฟิทช์คาดว่าจะให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ BBL ที่ ‘BBB+(EXP)’ ซึ่งหุ้นกู้ ดังกล่าวจะออกภายใต้โครงการ GMTN

หุ้นกู้ดังกล่าวจะออกโดยสาขาของ BBL ในฮ่องกง เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร อันดับเครดิตนี้จะสมบูรณ์ต่อเมื่อฟิทช์ได้รับเอกสารต่างๆ ฉบับจริงครบถ้วน

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ BBL ที่ ‘BBB+’ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตของ BBL สะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ ความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องของธนาคารที่มั่นคง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ธนาคารดำรงฐานะเงินกองทุน และค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูง ซึ่งน่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ได้บ้าง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ BBL อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ GMTN และอันดับเครดิตของหุ้นกู้

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ BBL อาจพิจารณาจากการปรับตัวดีขึ้นอย่างยั่งยืนของสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศ และการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องของฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคาร โดยที่ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk appetite) ไม่เพิ่มขึ้น หรือมีการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับภาครัฐ

การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ ที่อาจส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรหรือเงินกองทุนลดลง ตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจรวมถึง การเพิ่มระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จากการเพิ่มระดับการกระจุกตัวของสินเชื่อ หรือ การเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงเกินไป โดยที่ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไม่ได้ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอาจสะท้อนจากผลการดำเนินงานหรือเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้น

BBL เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ 18% และ 19% สำหรับเงินฝาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 นอกจากนี้ธนาคารยังมีเครือข่ายธุรกิจที่แข่งแกร่งในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และมีสัดส่วนธุรกิจในต่างประเทศมากที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๒ สมศักดิ์ ชูต้นแบบ NCDs Prevention Center 12 เขตสุขภาพ และโรงเรียนรักษ์ไต ล้านนา R1 พร้อมหนุน ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 สานต่อนโยบายคนไทย ห่างไกล
๑๘:๒๘ ยามาฮ่า เปิดฉาก Yamaha Thailand Music Festival 2025 เดินหน้าปลุกพลังนักดนตรีรุ่นใหม่กว่า 5,000 คน ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 1.7
๑๘:๔๒ มหาดไทย ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
๑๘:๑๐ ร้านอาหารเวฬาภิรมย์ ณ โรงแรม วิลล่า เทวา รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารอันยอดเยี่ยม
๑๗:๑๑ สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
๑๘:๑๓ บัตรเครดิต ทีทีบี ส่งโปรโมชัน ช้อปซูเปอร์คุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท
๑๗:๔๗ สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนโรงพยาบาลหัวเฉียว อายุ 50 ปีขึ้นไป
๑๗:๐๐ กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน เนื่องในวันคุ้มครองโลก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๑๗:๔๑ ผลิตภัณฑ์ Ax Tile EcoSoft(R) จาก Royal Thai แบรนด์ในเครือ TCM Corporation ได้รับรางวัล ASA Platform Selected Materials
๑๗:๔๐ ฉลองครบรอบ 87 ปี มอบสุขภาพดีด้วย. ชุดตรวจสุขภาพและวัคซีนป้องกันโรค