มูลนิธิซิตี้ และซิตี้ (ประเทศไทย) จับมือสถาบันคีนันแห่งเอเซียต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ดำเนินโครงการ “ครูไทย พอเพียง” หวังลดปัญหาหนี้สินครูในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมากว่าสองปี

จันทร์ ๐๗ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๑:๕๔
มูลนิธิซิตี้ และซิตี้ (ประเทศไทย) ร่วมกับสถาบันคีนันแห่งเอเซีย ดำเนินโครงการ “ครูไทย พอเพียง” ต่อเนื่องเป็นปีที่สองเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินให้แก่ครูอย่างยั่งยืน และมุ่งลดปัญหาหนี้ครูในประเทศไทย

มิสเตอร์ดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันโครงการ “ครูไทย พอเพียง” ได้อบรมครูไปแล้วทั้งสิ้น 351 คน จาก 133 โรงเรียน ในจังหวัดนนทบุรี นครนายก ชลบุรี และระยอง จากการติดตามผลหลังการอบรมระยะเวลา 1 ปี ของโครงการฯ ในปีที่ 1 พบว่า ครูผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถนำความรู้ทางด้านการเงินไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้จ่าย การออม การจัดการหนี้ และการบริหารเงินของตนเองที่ดีขึ้น ครูมีการออมเงินมากขึ้นจากร้อยละ 94 เป็นร้อยละ 100 มีการวางแผนงบประมาณรายเดือนล่วงหน้าในแต่ละเดือนจากร้อยละ 77 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95 มีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจากร้อยละ 51 เป็นร้อยละ 76 และมีการไตร่ตรองก่อนตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นจากร้อยละ 70 เพิ่มเป็นร้อยละ 100 นอกจากนี้ ครูผู้เข้าร่วมโครงการฯ เหล่านี้ยังนำความรู้และแนวคิดที่ได้จากการอบรมไปขยายผลต่อให้กับเพื่อนครูและนักเรียนภายในโรงเรียนอีกด้วย”

นางสาวนัยยา ประสมพันธ์ ครูโรงเรียนหัวถนนวิทยา จังหวัดชลบุรี หนึ่งในครูที่เข้าร่วมอบรมในโครงการฯ เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ที่จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ตนเองได้ความรู้เรื่องการบริหารการเงินเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าอบรมกับโครงการฯ ก่อนหน้านี้ เวลาจะใช้จ่ายอะไรไม่เคยคิดพิจารณาก่อนเลยว่าสิ่งที่จะซื้อจำเป็นหรือไม่ แต่หลังการอบรม มีการคิดไตร่ตรองก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าแต่ละอย่างเพิ่มมากขึ้นเยอะ และมีการจดบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเองเป็นรายวัน จดอย่างละเอียดว่าแต่ละวันใช้เงินไปเท่าไหร่และใช้เงินไปกับอะไรบ้าง พอถึงสิ้นเดือน ก็จะสรุปค่าใช้จ่ายออกมาว่าเป็นค่าใช้จ่ายประจำเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายสำหรับหนี้เท่าไหร่ รายได้เท่าไหร่ เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่ารายรับรายจ่ายของตัวเองเป็นอย่างไร แต่พอจดบัญชีทำให้รู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง และทำให้สามารถวางแผนการใช้เงินล่วงหน้าในเดือนถัดไปได้ เช่น ค่าใช้จ่ายบางรายการที่ใช้ในเดือนนี้มากเกินไป เดือนหน้าจึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่รายจ่ายบางอย่างก็ไม่สามารถจะลดได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายประเภทภาษีสังคม”

“นอกจากนี้ การอบรมยังทำให้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการออมเงินเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ารายได้ครูอาจจะไม่มากนัก แต่ก็สามารถออมเงินได้ โดยตนเองมีการออมเงินทีละน้อยๆ แต่ออมอย่างสม่ำเสมอเดือนละครั้ง ซึ่งหลังจากการอบรม ตนเองมีเงินออมเพิ่มขึ้น โดยได้ไปเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อการออมเงิน ซึ่งจะนำเงินไปฝากธนาคารเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 500-1,000 บาท เป็นการสร้างวินัยในการออมเงินให้กับตนเองอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการออมเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียน และเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูของจังหวัดชลบุรี” นางสาวนัยยากล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน