บีโอไอพานักลงทุนเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา สำรวจตลาดและพื้นที่กระจายสินค้าแห่งใหม่

ศุกร์ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๑:๔๖
บีโอไอขอนแก่น พานักลงทุนเยือนเมียนมาร์ จัดกิจรรมสร้างเครือข่ายลงทุน เล็งเจรจายักษ์ใหญ่อุปโภค —บริโภค เพราะสินค้าไทยครองใจผู้บริโภคจนติดตลาด และชมความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาหาลู่ทางใช้เป็นฐานผลิตสินค้า - แหล่งขนถ่ายสินค้าแห่งใหม่ให้นักลงทุนไทย

นางสาวรัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอขอนแก่น) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25 -29 พฤศจิกายน 2556 บีโอไอขอนแก่นร่วมกับสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนให้แก่นักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ณ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อสร้างเครือข่ายการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ

กิจกรรมสำคัญครั้งนี้ นักลงทุนไทยจะได้เข้าไปยังรัฐฉานเพื่อสำรวจสภาพเศรษฐกิจ - การค้า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผลิตผลทางการเกษตรพร้อมเป็นวัตถุดิบสำหรับการแปรรูป และหารือกับบริษัท Mandalay Shweyi Co., Ltd ( Food and Beverage )ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างกัน ขณะที่กิจกรรมสำคัญคือการชมความคืบหน้าโครงการท่าเรือและเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ที่เป็นแหล่งรองรับการลงทุนใหม่ เพื่อให้นักลงทุนไทยได้เห็นลู่ทางและเห็นโอกาสที่จะใช้เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้เป็นแหล่งลงทุนและท่าเรือในการกระจายสินค้า

“ สภาพเศรษฐกิจที่เติบโตของเมียนมาร์ ทำให้นักลงทุนหลายประเทศให้ความสำคัญ บีโอไอจึงกำหนดให้เป็นประเทศเป้าหมายเพื่อขยายการลงทุนและสร้างเครือข่ายทางการค้า กิจกรรมครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เมียนมาร์มีความต้องการและกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะสินค้าจากไทยที่กำลังติดตลาดได้รับการสนับสนุนที่ดี ขณะที่ติละวาก็เป็นแหล่งทุนใหม่ที่จะมีศักยภาพ หากเข้าไปช้านักลงทุนไทยก็จะเสียโอกาส ” นางสาวรัตนวิมลกล่าว

ทั้งนี้ข้อมูลจาก “ ศูนย์ข้อมูลการลงทุนไทยในต่างประเทศ ” (Thailand Overseas Investment Centerหรือ TOI Center) พบว่า มีนักธุรกิจไทยที่สนใจ และแจ้งถึงการตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศเมียนมาร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม แล้วรวมจำนวน 86 บริษัทจากกิจกรรมสร้างเครือข่ายการลงทุนที่บีโอไอจัดขึ้น และการออกไปเปิดตลาดใหม่ของนักลงทุนเอง

สำหรับสถิติของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในพม่า ตั้งแต่ปี 2550 -2555 พบว่า ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนเป็นอันดับ 1 มูลค่าการลงทุน 5,970 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 ประเทศสิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 3,708 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 3 ประเทศฮ่องกง มูลค่าการลงทุน 2,639 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอุตสาหกรรมที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่คือ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การขุดเจาะปิโตรเลียม ประมง อาหารทะเล และค้าส่ง ค้าปลีก

ผู้ประกอบการ ที่สนใจร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.043 -271300-2 , 02- 553 8356 หรือที่ www.boi.go.th.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๑๒ สมาร์ท-บูม-พีนัท-ยูโร ตอกย้ำกระแสแรง! เสิร์ฟโมเมนต์สุดฟินให้แฟนๆ ในงาน Mini Fanmeet WeTV VIP X Top Form
๑๖:๒๕ EARTH PATRAVEE เปิดตัวในนามศิลปินค่าย BOXX MUSIC กับซิงเกิลแรกของอัลบั้มใหม่ จดหมายที่ฉันคงไม่ได้ส่ง (Dried
๑๕:๕๗ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เปิดประมูลสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ครั้งที่ 3/2568
๑๕:๒๒ Wintong Vietnam ก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในนิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลอง
๑๕:๔๒ ขอเชิญเข้าร่วมฟังงาน Research Seminar ในหัวข้อ: AI, MARKETING ROBOTS AND LOVE
๑๕:๒๒ เอ็นไอเอ เร่งขยายสัดส่วนธุรกิจขนาดกลาง พร้อมปิดแก็ปเอสเอ็มอีไทยโตไม่สมดุล
๑๕:๑๖ 'สัตว์เลี้ยง' MVP ตัวจี๊ดของการเดทยุคนี้
๑๕:๔๙ ฉลองความอร่อยกับบุฟเฟต์มื้อค่ำเทศกาลอาหารอิตาเลียน 13 - 15 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องอาหารดิ ออร์ชาร์ด โรงแรมแคนทารี
๑๕:๒๕ มินซอฟต์แวร์ เปิดตัว 2 โปรแกรมใหม่ Gemlogin และ Gemphonefarm ตัวช่วยสำคัญทำตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ชยุคใหม่
๑๕:๓๕ UBiofresh จัดงานสัมมนาเผยแพร่ความรู้เรื่องผิว ชูคอนเซ็ปต์ PERFECT TOGETHER