บลจ.ไทยพาณิชย์ เพิ่มทุนกองอสังหาฯ ไพร์มออฟฟิศ ลงทุนบางนา ทาวเวอร์ มูลค่าไม่เกิน 2,094 ล้านบาท

อังคาร ๒๖ พฤศจิกายน ๒๐๑๓ ๑๔:๕๒
บลจ.ไทยพาณิชย์ เพิ่มทุนกองอสังหาฯ ไพร์มออฟฟิศ มูลค่าไม่เกิน 2,094 ล้านบาท พร้อมขอมติผู้ถือหน่วย 3 ธ.ค.นี้ ลงทุนบางนา ทาวเวอร์

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ หรือ Prime Office Leasehold Property Fund (POPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมแผนเพิ่มทุนกองทุน POPF มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 2,094 ล้านบาท เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าโครงการบางนา ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน เกรด B เป็นระยะเวลา 30 ปี จากปัจจุบันที่กองทุนลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานเกรด B ในทำเลถนนสุขุมวิท ได้แก่อาคารยูบีซี 2 (สมัชชาวาณิช 2) และอาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ โดยจะขอมติที่ประชุมผู้หน่วยลงทุนในวันที่ 3 ธันวาคมนี้

สำหรับโครงการบางนา ทาวเวอร์ เป็นโครงการอาคารสำนักงานและคุณภาพ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 6.5 ก่อนถึงศูนย์การค้าเมกาบางนา และตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 20 กิโลเมตร โดยทำเลดังกล่าวถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นเส้นทางการคมนาคมการค้าที่สำคัญ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เช่าและผู้มาใช้บริการภายในโครงการ นอกจากนี้ อาคารดังกล่าวยังมีผลประกอบการที่ดี มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Occupancy Rate) ระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2554 - สิ้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ที่อัตราค่อนข้างสูง ประมาณ 97-99% และมีศักยภาพในการเติบโตของค่าเช่า โดยอัตราค่าเช่าเฉลี่ยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวประมาณ 5% ต่อปี และในช่วงปี พ.ศ. 2553 - 2555 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 13%

“การลงทุนเพิ่มในโครงการบางนา ทาวเวอร์ ถือเป็นนโยบายสร้างการเติบโตให้กับกองทุน POPF ซึ่งเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน เพื่อทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ที่ดีในระยะยาว ตลอดจนเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้กับกองทุนรวมด้วยเช่นกัน” นางโชติกา กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุน POPFตั้งแต่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบันกองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนในรูปเงินปันผลให้กับผู้ลงทุนไปแล้ว 10 ครั้ง รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.47 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลตั้งแต่จัดตั้งกองทุนต่อราคาเสนอขายครั้งแรกเฉลี่ยประมาณ 9.9% ต่อปี นอกจากนี้ ยังมีมูลค่าของหน่วยลงทุนยังเพิ่มสูงขึ้นเป็น 12.50 บาท (ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556) จากมูลค่าราคาเสนอขายครั้งแรก 10 บาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๓๙ สมาคมธนาคารไทย ออกแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางทั้งลูกค้าบุคคลและSME
๑๔:๐๒ ผู้ลงทุนเชื่อมั่น โลตัส (Lotus's) จองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวน 9 พันล้านบาท
๑๔:๑๕ สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%
๑๔:๔๘ MASTER ประชุมผู้ถือหุ้นปี 67 ผ่านฉลุย ไฟเขียวจ่ายปันผล เดินหน้าสร้างโอกาสโตตามกลยุทธ์ MP
๑๔:๔๓ ธนาคารกรุงเทพ จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ส่งเสริมการผลิตบุคลากร-พัฒนาศักยภาพ-ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
๑๔:๒๐ ITEL จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. เห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผลอัตรา 0.0696 บ./หุ้น
๑๔:๒๙ ไทยพาณิชย์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch เปิดตัว โปรจีน อาฒยา นักกอล์ฟหญิงระดับโลก เป็น Brand
๑๔:๓๐ KCG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น
๑๔:๔๙ บาฟส์ ประกาศความสำเร็จ ลุยขยายโครงข่ายขนส่งน้ำมันทางท่อ เชื่อมต่อเครือข่ายพลังงานทั่วไทย
๑๔:๓๙ บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024