การแข่งขันกอล์ฟเอเชียน ทัวร์ รายการ “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2013” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 32 ล้านบาท) แข่งขัน ณ สนามอมตะ สปริง คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคมนี้ เป็นการดวลวงสวิงของยอดนักกอล์ฟจากทั่วโลกรวม 126 คน ไฮไลท์ของการแข่งขันรอบสองเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ เซอร์จิโอ การ์เซีย อดีตโปรหมายเลขสองของโลกปี 2010 จากสเปน โชว์เหล็กร้อนหวดหวดโฮลอินวันที่หลุม 8 ระยะ 236 หลา รวมกับอีก 5 เบอร์ดี้ ไม่มีโบกี้ รวมสองวันมี 11 อันเดอร์พาร์ 133 ขึ้นเป็นผู้นำร่วมกับ จัสติน โรส ยอดโปรมือ 4 ของโลกจากอังกฤษ ที่ตีเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68
ขณะที่ “โปรอาร์ม” ทำผลงานดีสุดในกลุ่มโปรไทย หลังเก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากการทำ 5 เบอร์ดี้เสียโบกี้เดียว รวมสองวัน 7 อันเดอร์พาร์ 137 เท่ากับ เฮนริค สเตนสัน มือสามของโลกจากสวีเดน ทั้งคู่มีสกอร์รวมตามหลังผู้นำ 4 สโตรค โดยว่าที่โปรมือหนึ่งเอเชียวัย 24 ปี เผยว่า “ผมเล่นได้ดีทั้งสองวัน เมื่อวานเกมยังมีขึ้นๆ ลงๆ แต่วันนี้ผมออกสตาร์ทได้ดีเก็บเบอร์ดี้ได้ในหลุมแรก จบ 9 หลุมแรกยังพัตต์ไม่ค่อยดี แต่พอรอบหลุมหลังเกมลื่นไหล สกอร์ตามหลัง 4 สโตรคถือว่ายังนำไม่ห่าง ผมต้องเปิดโอกาสให้ตัวเองตีให้ได้มากขึ้น การมาเล่นรายการนี้เป็นการได้กลับมาพบกับแฟนกอล์ฟชาวไทย รู้สึกดีที่ได้กำลังใจรอบสนาม”
การ์เซีย พูดถึงโฮลอินวันครั้งที่ 10 ของตัวเองว่า “ในชีวิตผมทำโฮลอินวันมา 10 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นโฮลอินในการแข่งขัน 3 ครั้ง ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ 3 ที่เกิดในขณะการแข่งขัน วันนี้เป็นวันที่ดีมาก โฮลอินวันที่ได้คือตีเข้าสโลปทางขวา และลุ้นให้ลูกไหลลงมา ผมก็ลุ้นว่าจะให้ลูกลงหลุม เพราะมองดูจากที่แท่นทีออฟ ก็มองไม่เห็น รู้สึกว่ามหัศจรรย์มาก และตื่นเต้นมาก ผมไม่คาดคิดว่าจะลง เหตุผลที่ตีทางขวา เพราะปีที่แล้วผมเห็นคนอื่นตีทางขวา และไหลลงทางขวา ปีนี้ผมจึงลองตีดูบ้าง แล้วมันก็สำเร็จ รายการนี้ผมก็ตั้งใจและจะเล่นให้ดีที่สุด พยามสร้างโอกาสให้ตัวเอง เพื่อที่จะชนะ และถ้าชนะได้ก็จะดีมาก”
ทางด้าน อเล็กซ์ เชกก้า ผู้นำรอบแรกจากเยอรมัน เก็บเพิ่มได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 71 หลังเสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 18 หล่นไปอยู่อันดับ 3 ร่วมกับ อานีร์บัน ลาฮีรี จากอินเดีย และอเล็กซานเดอร์ ลีวี จากฝรั่งเศส โดยมี ริคกี้ ฟาวเลอร์ นักกอล์ฟดาวรุ่งแห่งปี 2010 จากสหรัฐ ที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบ 25 ปีวันนี้ ทำสกอร์ตามมาที่ 8 อันเดอร์พาร์ 136
สำหรับการแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพของภูมิภาคเอเชีย และส่งเสริมประเทศไทยสำหรับเป็นเวทีสำหรับจัดการแข่งขันรายการระดับนานาชาติและเอเชีย โดยในปี 2013 จะมีการถ่ายทอดการแข่งขันไปยัง 200 ประเทศทั่วโลก และ 800 ล้านครัวเรือน
สามารถซื้อบัตรเข้าชมไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ซึ่งบัตรเข้าชมรอบสาม (14 ธันวาคม) ราคา 400 บาท และรอบสุดท้าย 15 ธันวาคม ราคา 500 บาท และบัตรเข้าชมแบบแพ็คเกจ 4 วันราคา 800 บาท เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปสามารถเข้าชมฟรี ส่วนข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร เอสซีบี เครดิต การ์ด, พีทีที บลู การ์ด, เอสพีจี เมมเบอร์ การ์ด และผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสมิติเวช รวมถึงผู้ถือบัตรพนักงานหมดเขต 11 ธันวาคม 2013 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-262-3456 หรือที่เว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com
นอกจากนี้ยังสามารถชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันทั้ง 4 วัน ผ่านทางช่องสัญญาณของเอเชียนทัวร์ โกล บอลทีวี ทางทรูวิชั่นส์ และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันได้ทางเว็บไซต์ www.thailandgolfchampionship.com หรือเฟสบุ๊ค www.facebook.com/ThailandGolfChampionship
ข้อมูลเกี่ยวกับไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ
“ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ” ร่วมจัดการแข่งขันโดย กัลฟ์ สปอร์ตส์เมเนจเมนท์, เอเชียน ทัวร์ และไอเอ็มจี ผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้มีทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์, กัลฟ์ เจพี, โตโยต้า มอเตอร์ ไทยแลนด์,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ,บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน), บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน), การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, ไทยออยล์, ไออาร์พีซี, มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่,โอเมก้า, นูเตอร์/อีริคเซน, โรงพยาบาลสมิติเวช,สตาร์วูด, ซีเอ็นเอ็น, ซูเปอร์สปอร์ตส์, ไฮเนเก้น, ริโก้, เกรแฮม เบค ไวนส์, เอสโคลา, พานาโซนิค, ซริซอน, เซ็นทรัล พัฒนา, บางกอกโพสต์ และสนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ