นายวินัย หิรัญย์ภิญโญภาศ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มปฎิบัติการกองทุน กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า จากที่มีการประกาศให้วันที่ 30 ธันวาคม ปีนี้ เป็นวันหยุดพิเศษของราชการและสถาบันการเงิน รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนด้วย ดังนั้น การลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2556 จะต้องลงทุนภายในวันที่ 27 ธันวาคมเป็นวันสุดท้าย ไม่ใช่วันที่ 30 ธันวาคม
“นอกจากนี้สำหรับผู้ลงทุนด้วยวิธีแบบถัวเฉลี่ยซื้อรายเดือน หรือ Dollar Cost Averaging ในกองทุน RMF และ LTF ของกองทุนบัวหลวง ที่แจ้งให้ตัดเงินลงทุนในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 28 ถึง 31 ของทุกเดือนนั้น สำหรับเดือนธันวาคม 2556 นี้ ระบบจะเลื่อนขึ้นมาตัดเงินลงทุนในวันที่ 27 ธันวาคม เพื่อให้เป็นการลงทุนเพื่อใช้สิทธิทางภาษีได้ทันปีนี้ จึงขอแจ้งให้ผู้ลงทุนที่สมัครใช้วิธีลงทุนแบบถัวเฉลี่ยของกองทุน RMF และ LTF ของกองทุนบัวหลวงไว้ โปรดเตรียมเงินในบัญชีให้เพียงพอสำหรับตัดบัญชีเพื่อการลงทุนในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 เพื่อให้การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นไปตามที่วางแผนไว้” นายวินัย กล่าว
ปัจจุบัน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ของกองทุนบัวหลวง มีหลากหลายโยบายการลงทุนให้เลือก ถึง 9 กองทุนด้วยกัน ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ ได้แก่ บัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ บัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นบางส่วน ได้แก่ บัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนผสมที่สัดส่วนการลงทุนในหุ้นขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ได้แก่ บัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนตราสารทุนเน้นการลงทุนในหุ้น ได้แก่ บัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ บัวหลวง Small-Mid Cap เพื่อการเลี้ยงชีพ และ บัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนที่ลงทุนในทองคำ เพื่อเป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุน ได้แก่ บัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ
ส่วนกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF มี 2 กองทุน คือ บัวหลวงหุ้นระยะยาว และบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 เป็นทางเลือกสำหรับผู้คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น รับความเสี่ยงได้ โดยบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 จะลงทุนในหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 75% เฉลี่ยในรอบปีบัญชี จึงมีความเสี่ยงโดยรวมต่ำกว่าบัวหลวงหุ้นระยะยาว ที่ลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีได้ถึงร้อยละ 65-100%
ทั้งนี้ ผลดำเนินงานของกองทุนบัวหลวงสร้างผลงานในระยะยาวได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะการบริหารกองทุนหุ้น หรือกองทุนผสมที่เน้นการลงทุนในหุ้น ที่ได้รับรางวัลจากผลงานการบริหารกองทุนอย่างต่อเนื่องและเป็นที่กล่าวถึงของนักลงทุน โดยรางวัลล่าสุด “บลจ.ยอดเยี่ยมสองปีซ้อน” ในปี 2012 และปี 2013 จากงาน SET Awards ที่จัดโดยวารสารการเงินธนาคารและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งเป็นบริษัทแรกที่ได้รับรางวัลมากที่สุดถึง 6 รางวัล จากการประกาศรางวัล 5 ครั้ง ตลอด 10 ปีตั้งแต่เริ่มมีรางวัล SET Awards อันเป็นรางวัลที่ตอบแทนความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทีมจัดการกองทุน รวมทั้งคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานทุกคน
นอกจากนี้ ในปี 2556 กองทุน RMF และ LTF ของกองทุนบัวหลวง ได้รับรางวัลมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนมีนาคม ในงาน Morningstar Thailand Fund Awards 2013 กองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว รับรางวัลกองทุนรวมหุ้นระยะยาวยอดเยี่ยมปี 2013 รวมทั้งเดือนมิถุนายน ในงานประกาศผลรางวัล MONEY & BANKING AWARDS 2013 กองทุน LTF ทั้ง 2 กองทุน รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF 70/30) และกองทุนบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ก็ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพด้วย
สำหรับแนวทางการบริหารกองทุนของบริษัทยังคงเน้นความสำคัญของการลงทุนในระยะยาวเพื่อผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำมากกว่ามุ่งซื้อขายเพื่อทำกำไรในช่วงสั้นๆ โดยมี Theme การลงทุนในปี 2557: “มีตรา ยั่งยืน โปร่งใส...มีชีย ไปกับ AEC” (AEC, Brand Quality, Sustainability, Transparency) ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง เพราะจะมุ่งลงทุนระยะยาวในบริษัทจดทะเบียนที่ใช้โอกาสจาก AEC ในการขยายทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสร้าง โดยมีตราสินค้าที่ดี มีธรรมาภิบาล มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า มี Pricing Power และทำให้ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อตราของบริษัทได้ เพราะบริษัทเหล่านี้จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งต่อไป ท่ามกลางมรสุมจากสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก