นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจปี 56 เติบโตเพียง 3 - 3.5% คาดปี 57 เติบโตได้ 4 – 5% จากปัจจัยบวก AEC และเศรษฐกิจโลกฟื้น

พฤหัส ๐๒ มกราคม ๒๐๑๔ ๑๐:๔๗
ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า หรือ MPA NIDA ฟันธงเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 56 ชะลอตัวลงจากภาวะตึงเครียดทางการเมือง นักท่องเที่ยวหวั่นเกิดอันตราย ตลอดจนบรรยากาศไม่เอื้อต่อการลงทุนและการใช้จ่าย แม้เศรษฐกิจภายนอกจะดีขึ้น ส่งผลดีต่อภาคการส่งออก แต่สถานการณ์ภายในดูจะยืดเยื้อ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ เติบโตได้เต็มที่ไม่เกิน 3.5% หวังปี 57 เติบโตได้ 4 – 5% จากแรงหนุนปัจจัยบวก AEC และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ด้วยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป จีน และอินเดียเติบโต

รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า ภาวะภาพรวมเศรษฐกิจไทยตลอดปี 56 ต้องเผชิญสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศหลายประการ ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่แปรปรวน จากความผันผวนทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา การชะลอตัวจากเศรษฐกิจยุโรป ภาวะสงครามและการประท้วงในหลายประเทศ ล้วนสร้างผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย โดยครึ่งปีแรกของปี 56 ภาคการส่งออกของไทยเติบโตได้เพียง 0.95% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากพิจารณาเป็นรายไตรมาสแล้ว การส่งออกของไทยชะลอตัวติดต่อกันตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 56 จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 56 ซึ่งเป็นการหดตัวลงถึง 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยมีสาเหตุมาจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น

ส่วนภาพรวมครึ่งปีหลังของปี 56 เศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น จากปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณการฟื้นตัว หลังตัวเลขว่างงานลดลงจาก 7.9% ในเดือนธันวาคม เหลือ 7.0% ในเดือนมกราคม พร้อมทั้งเรื่องของมาตรการ QE ที่ลดปริมาณวงเงินลงในเดือนธันวาคม จาก 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เหลือ 75,000 ล้านเหรียญต่อเดือน และคาดว่าจะมีการประกาศยกเลิกมาตรการ QE ลงในช่วงไตรมาส 3 ของปี 57 ซึ่งนับเป็นการบ่งบอกถึงสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้เศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่น ต่างเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ทำให้ภาคการส่งออกของไทยได้รับอานิสงค์ ขยายตัวถึง 4.5% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 56

รศ.ดร.มนตรี ยังกล่าวต่อว่า ส่วนปัจจัยภายในประเทศในครึ่งหลังปี 56 ยังตื่นตัวกับการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณคงค้างของปี 56 แต่ด้วยงบประมาณแผ่นดินปี 57 ที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากการยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และการยุบสภาของรัฐบาล ทำให้งบลงทุนในงบประมาณแผ่นดินปี 57 ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ส่งผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชะลอตัวลง สะท้อนผ่านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่หดตัวลงมาอยู่ที่ 0.85% ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเสมือนเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ด้วยโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นเมกะโปรเจคของภาครัฐ ภายใต้งบประมาณ 2 ล้านล้านบาทนั้น ทำให้ภาคเศรษฐกิจสามารถคาดการณ์ได้ว่า หาก พรบ. ดังกล่าวผ่าน งบประมาณ 350,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนก้อนแรก จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเกิดการขยายตัวได้

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง High-Season ของภาคการท่องเที่ยวของไทยในช่วงปลายปี 56 นี้ ทำให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากความกังวลในความไม่ปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หลีกเลี่ยงที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 56 นี้ จึงสามารถขยายตัวได้ไม่เกิน 3 – 3.5% เท่านั้น

ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA กล่าวว่า ในปี 57 ปัจจัยเรื่อง AEC ยังเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ หนุนให้ภาวะเศรษฐกิจไทยเติบโต ซึ่งในปีหน้า 57 นี้ การลงทุนที่จะเข้ามาในประเทศไทย ด้วยปัจจัยหนุนด้าน AEC นั้น จะเป็นการลงทุนที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง คือเกิดเป็นการลงทุนในภาค Real Sector เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในปี 58 รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีนมีสถานการณ์ดีขึ้นเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้อุปสงค์ของประเทศเหล่านี้เกิดการขยายตัว ด้วยความที่ประเทศไทยมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคการส่งออกมากถึง 72% และมีสัดส่วนการส่งออกกับอาเซียน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องมากถึง 25.7% ของการส่งออกทั้งหมด ทำให้คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นจากการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศในภาคการลงทุน Real Sector เพื่อ AEC ในครึ่งหลังของปี 57 คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท อยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจยุโรป ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 63.5% ของขนาดเศรษฐกิจโลกนั้น เมื่อประเทศต่างๆ เหล่านี้ ส่งสัญญาณดีขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม และคาดภาคการส่งออกของไทยในปี 57 จะเติบโตได้ถึง 8%

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่คาดว่าจะไม่รุนแรง หากกระบวนการยังคงอยู่ในกรอบ ซึ่งน่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ไตรมาส สถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ พรบ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูงนั้น ยังคงเป็นปัจจัยบวกอีกประการหนึ่ง ที่จะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 57 ซึ่งประเด็นนี้ยังคงต้องขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ จะช่วยเชื่อมโยง AEC ด้วยคมนาคมระบบราง ทำให้ไทยมีตลาดการค้าที่ใหญ่ขึ้น และส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้

นอกจากนี้ จากแรงหนุนของ AEC โดยเฉพาะที่จะเกิดการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นในภาคการลงทุนในปี 57 นั้น จะเน้นหนักไปที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ อาคาร ที่พักต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว จะส่งผลให้ตลาดทุนไทย กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากหากพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานประกอบกับผลประกอบการของบริษัทแล้ว ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง คาดว่าในปี 57 จะได้เห็นดัชนีราคาหลักทรัพย์อยู่ที่ 1,600 จุด ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับความสนใจจากต่างชาติ ด้วยบรรยากาศเศรษฐกิจภายนอกประเทศที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ตลอดจนธุรกรรมการค้าชายแดนจะเกิดการขยายตัว ส่งผลให้ภายในประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ภาคการบริโภคขยายตัว คาดว่าระดับอัตราเงินเฟ้อในปี 57 จะอยู่ในกรอบไม่เกิน 2.5% และจากสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่เกิดขึ้น คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดปี และอาจจะมีโอกาสได้เห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปี 57 ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาที่มีทิศทางขาขึ้นได้ ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 57 จะเติบโตได้ 4 – 5% รศ.ดร.มนตรีกล่าว.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง