ฟรอสต์ฯ ชี้ “วิกฤตการเมืองไทย สร้างโอกาสทองให้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์”

พุธ ๐๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๔ ๑๔:๕๕
ในขณะที่วิกฤติการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป รวมทั้งภาวะสูญญากาศทางการเมืองที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการชะลอตัวอย่างหนัก ผลสำรวจของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนกลับพบว่ากลุ่มผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์กลับมีอัตราการเติบโตสวนกระแสอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา

นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยว่า “จากผลสำรวจของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน พบว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ธุรกิจการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยนั้นมีอัตราการเติบโตโดยรวมเฉลี่ยสูงถึง 21% คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,700 ล้านบาท แม้ว่าในปีที่แล้วประเทศไทยจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่วิกฤติเหล่านี้กลับเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆทางภาครัฐและเอกชน เร่งหามาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับฐานข้อมูลของตน พร้อมกับทบทวนความคุ้มค่าของการลงทุนในด้านการบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร”

สำหรับปี 2557 นี้ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลแวน คาดการณ์ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยจะยังคงรักษาระดับอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยหลัก 3 ประการ คือ กระแสการตอบรับเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง ความต้องการศูนย์รับมือภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉิน Disaster Recovery (DR) site และการเชื่อมโยงเพื่อตอบรับการเติบโตในกลุ่มอาเซียน

นายธีระ กล่าวว่า “แม้ว่าเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งจะเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมานานแล้ว แต่ที่ผ่านๆมา หลายหน่วยงานยังอยู่ในช่วงการศึกษาค้นคว้าและทดลองใช้งาน เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว ทำให้ปี 2556 เป็นปีที่กระแสการตอบรับคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มสูงขึ้นมาก ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จึงเริ่มเปิดให้บริการคลาวด์โซลูชั่นโฮสติ้ง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ Infrastructure-as-a-Service สำหรับคลาวด์สาธารณะ และพัฒนาต่อไปยังคลาวด์ส่วนตัวสำหรับองค์กร”

“ศูนย์รับมือภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินหรือ DR-Site นั้นเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่ช่วงหลังน้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อปี 2555 กอปรกับในปีที่แล้วผลกระทบทางการเมืองทำให้มีการปิดอาคารศูนย์ข้อมูลและสถานที่ทำการหลายแห่ง ทำให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆต้องหาหนทางรับมือกับความไม่แน่นอนเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสให้ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความพร้อมในด้าน DR-Site สามารถทำตลาดได้โดยนำเสนอบริการนี้ ในลักษณะบริการเสริมหรือแพ็คเกจรวมให้กับลูกค้าใหม่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่แล้วยังเป็นการแสดงถึงศักยภาพความพร้อมของดาต้าเซ็นเตอร์อีกด้วย” นายธีระเสริม

นอกจากนี้ นายธีระ ย้ำว่าแม้วิกฤติการณ์ทางการเมืองในบ้านเราจะยังไม่แน่นอน แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามความสำคัญของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีต่อประเทศไทย

“ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ประเทศไทยยังคงมีความสำคัญในแง่ของยุทธศาสตร์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยเริ่มพัฒนาศูนย์ข้อมูลของตน เพื่อยกระดับความปลอดภัยและการบริการให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ผู้ให้บริการจากต่างชาติก็เริ่มให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนหรือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับดาต้าเซ็นเตอร์ในบ้านเราอีกด้วย”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๒ สมศักดิ์ ชูต้นแบบ NCDs Prevention Center 12 เขตสุขภาพ และโรงเรียนรักษ์ไต ล้านนา R1 พร้อมหนุน ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 สานต่อนโยบายคนไทย ห่างไกล
๑๘:๒๘ ยามาฮ่า เปิดฉาก Yamaha Thailand Music Festival 2025 เดินหน้าปลุกพลังนักดนตรีรุ่นใหม่กว่า 5,000 คน ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 1.7
๑๘:๔๒ มหาดไทย ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
๑๘:๑๐ ร้านอาหารเวฬาภิรมย์ ณ โรงแรม วิลล่า เทวา รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารอันยอดเยี่ยม
๑๗:๑๑ สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
๑๘:๑๓ บัตรเครดิต ทีทีบี ส่งโปรโมชัน ช้อปซูเปอร์คุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท
๑๗:๔๗ สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนโรงพยาบาลหัวเฉียว อายุ 50 ปีขึ้นไป
๑๗:๐๐ กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน เนื่องในวันคุ้มครองโลก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๑๗:๔๑ ผลิตภัณฑ์ Ax Tile EcoSoft(R) จาก Royal Thai แบรนด์ในเครือ TCM Corporation ได้รับรางวัล ASA Platform Selected Materials
๑๗:๔๐ ฉลองครบรอบ 87 ปี มอบสุขภาพดีด้วย. ชุดตรวจสุขภาพและวัคซีนป้องกันโรค