หลังจากนี้ โบอิ้งและนกแอร์จะร่วมกันจัดทำสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินในรายละเอียด (ซึ่งจะเผยแพร่ในเว็บไซต์Boeing Orders & Deliveries ต่อไป) โดยในปัจจุบัน สายการบินนกแอร์มีเครื่องบินรุ่น 737 Next-Generation รวม 14 ลำ และการสั่งซื้อเครื่องบินในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สายการบินนกแอร์ได้สั่งซื้อเครื่องบินโดยตรงจากโบอิ้ง
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การตกลงที่จะซื้อเครื่องบินจากโบอิ้งเป็นก้าวสำคัญเชิงกลยุทธ์ของนกแอร์ เครื่องบินโบอิ้ง 737 ถือเป็นเครื่องบินหลักในฝูงบินของเราในปัจจุบันและในอนาคต และทำให้นกแอร์มีความพร้อมที่จะเติบโต รวมทั้งให้ความมั่นใจได้ว่าเราจะมีเครื่องบินที่ประหยัดเชื้อเพลิงและวางใจได้สำหรับให้บริการ”
ดิเนช เกซการ์ รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและฝ่ายขายประจำอินเดีย โบอิ้งคอมเมอร์เชียล แอร์เพลน กล่าวว่า “เครื่องบินโบอิ้ง 737 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นกแอร์มีการเติบโตตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดย 737 MAX จเช่วยเสริมฝูงบินให้มีความพร้อมมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของสายการบินนกแอร์ที่จะรักษาต้นทุนในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX มีประสิทธิภาพสูง วางใจได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะช่วยให้สายการบินนกแอร์ให้บริการที่น่าประทับใจ ในคุณภาพสูงและมีราคาประหยัด”
เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตระกูล 737 รุ่นใหม่จากโบอิ้ง และเป็นเครื่องบินที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในตลาดเครื่องบินทางเดินเดียว 737 รุ่นใหม่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการที่นักลงทุนได้จัดอันดับให้โบอิ้ง 737 เป็นเครื่องบินแบบทางเดินเดียวเป็นเครื่องบินยอดนิยมอันดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นเครื่องที่ใช้กันแพร่หลายในตลาด และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้นทุนการบริหารต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
โบอิ้ง 737 MAX ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัย โดยพัฒนามาจากจุดแข็งของรุ่น 737 Next-Generation และใช้เครื่องยนต์ CFM International LEAP-1B ที่มีสมรรถนะสูงวางใจได้ และให้ความสะดวกสบายสูงสุดเมื่อเทียบกับเครื่องบินแบบทางเดินเดียวรุ่นอื่นๆ ในตลาด รวมทั้งช่วยให้สายการบินต่างๆ ลดต้นทุนการดำเนินงานต่อที่นั่งลงได้ถึงร้อยละ 8