ส่วนวาระคูปองสนับสนุนการรับชมทีวีดิจิตอลยังต้องถกต่อนั้น นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า “มูลค่าคูปองจะเพิ่มเป็นเท่าใด? นั้น เป็นโจทย์ค่อนข้างยากในการหาราคาที่เหมาะสมที่ไม่มากไปหรือน้อยไป และสามารถนำไปใช้แลกซื้อได้สารพัดประโยชน์ เช่น ส่วนลดในการซื้อทีวีดิจิตอลรุ่นใหม่ที่มีจูนเนอร์ในตัว หรือซื้อกล่อง DVB-T2 พร้อมหนวดกุ้งก้างปลาดิจิตอล (active antenna) หรือซื้อกล่อง DVB-S2 ที่เรียงช่องตั้งแต่เลข 1-36 เป็นต้น ซึ่งตอนนี้มี3โจทย์หลักที่พบ คือ 1. บางบ้านอยากใช้คูปองเป็นลดซื้อทีวีดิจิตอลใหม่แทนทีวีเครื่องเก่า แล้วดูได้เลย 2. บางบ้านมี smart TVแล้วอยากได้แค่กล่องดิจิตอลภาคพื้น DVB-T2+ active antenna และ3. บางบ้านอยากใช้คู่กับจานดาวเทียมเดิมที่มีอยู่แต่ขออัพเกรดกล่อง DVB-S2 เพื่อดูแบบคมชัดสูง (HD) ได้และเรียงช่องทีวีดิจิตอลแบบ 1-36 แต่ยังดูช่องพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น กีฬา การเมือง และอื่นๆ แบบที่เคยดูผ่านดาวเทียม ซึ่งถ้าเลือกกล่อง T2 ที่รับทีวีดิจิตอล 36 ช่องได้อย่างเดียว จะไม่สามารถรับชมช่องทีวีในดาวเทียมเช่น Pay TV กีฬา หรือ ช่องการเมือง ดังนั้น ระยะยาวจะทำให้ทีวีดาวเทียมที่มีหลายร้อยช่องจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงหรือหายไป แทนที่ด้วยโครงสร้างตลาดใหม่ที่ กสทช.จะสนับสนุนผ่านคูปอง จึงอยู่ที่ว่า กสทช.จะออกแบบตลาดในวันนี้ เพื่อกำหนดอนาคตอย่างไร การสร้าง options ให้ครัวเรือนเลือกได้หลายแนวทางนำมาซึ่งโจทย์ที่ยากในการหาค่าของ “ราคากลาง” ของคูปองส่วนลดที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป จึงยังต้องถกกันหลายรอบ บอร์ดแต่ละคนก็มีราคาในใจของตนเอง คงต้องถกกันต่อวันจันทร์นี้”
“จริงๆตนเองก็มีตัวเลขในใจจากการวิเคราะห์แล้ว แต่ยังถกกันไม่นิ่ง เมื่อมีข้อมูลใหม่ๆเข้ามา ก็ต้องถกกันต่อ การตัดสินใจเรื่องการใช้งบกว่า 3 หมื่นล้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย ขอเวลาให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ เมื่อมีเสียงค้านเราก็ควรฟัง ทบทวน แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม กสท.ต้องสรุปเพื่อส่งเข้าบอร์ดใหญ่ กสทช. ให้ทัน วันพุธ 23 เมษายนนี้ เพื่อเคาะสุดท้ายตามแพลนเดิมที่วางไว้ ถ้าไม่ทันก็อาจต้องเลื่อนไปอีก ส่วนกระบวนการพิมพ์-การแจกคูปอง ภาพรวมทั้งหมดเกิน80% สรุปได้เรียบร้อยแล้ว เหลือเรื่องราคาคูปองติดอยู่เรื่องเดียว ซึ่งต้องติดตามผลการประชุมที่สำคัญได้วันจันทร์นี้...” นางสาวสุภิญญา กล่าว