โพลล์สำรวจความรู้สึกของผู้หญิงเกี่ยวกับ “วันแม่”

พฤหัส ๑๔ สิงหาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๑๕
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ, ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจความรู้สึกและความคิดเห็นของคุณแม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อลูก ๆ เนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2557

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 982 คน สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 41 ถึง 45 ปีซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30.04 ขณะที่ร้อยละ 26.88 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 46 ถึง 50 ปี ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 34.01 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 31.67 ร้อยละ 24.44 และร้อยละ 21.28 ตามลำดับ

สำหรับเรื่องที่ลูก ๆ เคยทำให้กลุ่มตัวอย่างดีใจสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ผู้ปกครอง คิดเป็นร้อยละ 79.84 ตั้งใจเรียนหนังสือ คิดเป็นร้อยละ 76.58 และยอมรับเมื่อตนเองทำผิด คิดเป็นร้อยละ 72.1 ส่วนเรื่องที่ลูก ๆ เคยทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียใจสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ผู้ปกครอง คิดเป็นร้อยละ 78.72 พูดโกหก คิดเป็นร้อยละ 75.76 และแอบหนีเรียน คิดเป็นร้อยละ 71.89

ในด้านการพูดคุยและการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างกลุ่มตัวอย่างกับลูก ๆ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.09 ระบุว่าในปัจจุบันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกโดยเฉลี่ยประมาณ 5 ถึง 6 วันในหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.93 ระบุว่าเป็นประจำทุกวัน และกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 34.22 ระบุว่าในปัจจุบันตนเองมีโอกาสได้ร่วมรับประทานอาหารกับลูก ๆ โดยเฉลี่ยประมาณ 2 ถึง 4 มื้อต่อสัปดาห์

สำหรับช่องทางการพูดคุยกับลูก ๆ นั้น กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 67.21 ระบุว่าปัจจุบันนี้ตนเองได้พูดคุยกับลูกแบบเจอกันต่อหน้ามากกว่าการพูดคุยผ่านโทรศัพท์/สื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 19.86 ระบุว่าได้พูดคุยผ่านทั้งสองช่องทางเท่า ๆ กัน ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 12.93 ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกผ่านโทรศัพท์/สื่อสังคมออนไลน์มากกว่า

นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งมีความคิดเห็นว่าสภาพการใช้ชีวิตของตนเองในสังคมปัจจุบันมีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.68 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 58.35 มีความคิดเห็นว่าพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของลูก ๆ ในสังคมปัจจุบันมีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง และกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 60.08 มีความคิดเห็นว่าการที่ลูก ๆ มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต/โทรศัพท์เคลื่อนที่/สมาร์ทโฟนใช้มีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๗ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นวิทยากรพิเศษ Brokerage and selling strategy ให้กับโครงการปริญญาโทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
๑๖:๓๓ เจโทรฯ จัดงาน JAPAN PREMIUM HOTATE - From HOKKAIDO Ocean to your Table - ชูความสำเร็จ ดันส่งออกหอยเชลล์โฮตาเตะจากญี่ปุ่นมาไทย โตขึ้นเป็น 2.3
๑๖:๑๒ การ์ทเนอร์เผยคาดการณ์ 8 ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ แห่งปี 2567
๑๖:๓๖ KGI จัดพิธีทำบุญบริษัท เปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ One Bangkok ด้วยแนวคิดพื้นที่แห่งความยั่งยืน
๑๖:๓๕ LINE STICKERS เสิร์ฟฟีเจอร์ใหม่แกะกล่อง 'คอมบิเนชัน สติกเกอร์' ส่งสติกเกอร์หลายตัว ได้ในคราวเดียว เพิ่มความสนุกทวีคูณให้การแชท
๑๖:๕๔ 'จุฬาฯ' จับมือ 'ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์' วิจัยและพัฒนาการจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ
๑๖:๑๙ ประกาศ!! พร้อมจัดงาน PET Expo Thailand 2024
๑๖:๔๓ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการพลังงาน เพื่อความยั่งยืน ในงาน Future Energy
๑๖:๕๘ เตรียมสายจูงให้พร้อมแล้วพาน้องแมวน้องหมามาสนุกกันอีกครั้งกับ โรยัล คานิน ในงาน Pet Expo Thailand 2024
๑๕:๒๖ MAGURO หุ้นไอพีโอสุดฮอตจัดประชุมนักวิเคราะห์ ก่อนขาย IPO 34 ล้านหุ้นไตรมาสนี้