ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยที่มาของกิจกรรมว่า “จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความตื่นตัวให้วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยร่วมงานกับหน่วยงานภาคเอกชน และผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลาย จัดกิจกรรม Bangkok Fashion Avenue 2014 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตอกย้ำกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแฟชั่น ในปัจจุบันนี้การเทียบจัดอันดับของเมืองแฟชั่น กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับ 29 ของโลก และในเอเซียเราจะเป็นลำดับ 5 รองจาก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ตามลำดับ จึงอยากเร่งพัฒนาเพื่อก้าวสู่อันดับต้นๆ ของเอเซีย ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ และพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้ง 3 สาขา ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยการมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ และสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวให้ทราบว่าเมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งแฟชั่นและ สินค้าแบรนด์ไทยที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย พร้อมตั้งเป้าประเทศไทยเป็น สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง (Fashion Shopping Paradise)”
สิริมน ณ นคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินโครงการในครั้งนี้ เผยถึงรูปแบบกิจกรรมที่จะจัดขึ้นว่า “การจัดงานในครั้งมีคอนเซ็ปต์ว่า Everywhere is Fashion เพราะแฟชั่นอยู่รอบตัวเรา ทุกๆ ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของแฟชั่น จึงนำแฟชั่นเข้าไปหาทุกคนตามสถานที่ต่างๆ ที่เราจะจัดแฟชั่นโชว์ ซึ่งแต่ละย่านนั้นก็มีเอกลักษณ์ ความโดดเด่น ที่ไม่เหมือนกัน จึงนำมาสร้างเป็นคอนเซ็ปต์แฟชั่นโชว์ของแต่ละแห่ง พร้อมทั้งยังสร้างความสุขร่วม ด้วยการนำแฟชั่นมาเชื่อมโยงกับดนตรีเข้าไว้ด้วยกัน โดยนำวงดนตรีแนวหน้าของไทยมาร่วมโชว์ เพื่อให้โชว์นั้นมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ วงดนตรีที่เล่นนั้นจะเป็นวงที่มีเอกลักษณ์ตรงกับคอนเซ็ปต์แต่ละย่าน โดยย่านแรก จตุจักร เป็นสถานที่ที่มีความหลากหลาย ที่เรียกว่าเป็นเวิลด์คลาสช้อปปิ้ง สไตล์แฟชั่นเสื้อผ้า อยากได้แบบไหน ที่จตุจักรมีหมด ดังนั้นการนำเสนอในย่านนี้คือ สไตล์ อิเล็คทริค ที่จะสื่อถึงความหลากหลาย สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นคือความหลากหลาย ที่มีความเป็นวาไรตี้ แต่มีความเป็นแฟชั่นอยู่ แห่งที่ 2 บางลำพู เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราว เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย คอนเซ็ปต์ของโชว์จึงเป็น คัลเจอร์ แอนด์ ไวลด์ เสื้อผ้าที่นำมาโชว์นั้นยังความสวยงาม แต่จะแฝงความดิบที่แสดงออกถึงวัฒนธรรม แห่งที่ 3 ประตูน้ำ จะเห็นว่าคนที่มาช้อปปิ้งที่ย่านนี้จะมีความสนุกในแฟชั่น สีสัน ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเทรนด์แฟชั่น จะมีที่นี่ คอนเซ็ปต์จึงเป็น แฟชั่น ฟอร์ ฟัน โชว์นี้จึงเน้นความสนุกสนานทั้งการเดินแฟชั่นโชว์ เสื้อผ้า รวมถึงเพลง แห่งที่ 4 สุขุมวิท ย่านที่มีความเป็นเมืองแห่งธุรกิจ สะท้อนไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง ที่ชอบเทคโนโลยี คอนเซ็ปต์ที่นี่ จะเป็นการจัดโชว์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่เปิดร้านค้าออนไลน์ เป็นกลุ่มที่ไม่มีหน้าร้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และน่าสนับสนุน แฟชั่นในโชว์นี้จึงมีคอนเซ็ปต์ว่า ดัสค์ ทิล ดอว์น เสื้อผ้าในโชว์นี้จึงนำเสนอในลุคเท่ สมาร์ทในตอนกลางวันทำงาน แต่เที่ยวปาร์ตี้ได้ต่อในยามค่ำคืน และที่สุดท้าย สยาม เป็นที่รู้กันว่าแฟชั่นของสยามเป็นเรื่องของการล้ำหน้า การก้าวนำไปพร้อมๆ กับแฟชั่น มีดีไซเนอร์หน้าใหม่เกิดจากสยามมากมาย คอนเซ็ปต์จึงเป็น แฟชั่น ฟอร์เวิร์ด ซึ่งความพิเศษของโชว์นี้ จะเป็นแฟชั่นโชว์จากดีไซเนอร์ที่ประสพความสำเร็จแล้ว 10 ดีไซเนอร์ไทย ร่วมกับดีไซเนอร์เลือดใหม่อีก 10 ดีไซเนอร์ จะออกแบบเสื้อผ้ามาเดินร่วมกัน ซึ่งดีไซเนอร์ที่จะมาร่วมออกแบบเสื้อผ้าในแต่ละย่าน จะเลือกจากดีไซเนอร์ที่เป็นผู้ประกอบการในย่านนั้นๆ ยกเว้นสุขุมวิท ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ อยากจะสนับสนุนให้เกิดการตื่นตัวระหว่างผู้ประกอบการ ร้านค้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น ในขณะที่ประชาชนทั่วไป อยากให้เกิดความรู้สึกสนุกไปกับแฟชั่น เหมือนที่เราจัดแฟชั่นโชว์ในย่านที่คุณอยู่กันถึงที่”
นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักแฟชั่นประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น สามารถซื้อบัตรและลงทะเบียนเข้างานได้ตลอดทั้งวัน โดยการอบรมในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของแฟชั่น การลงทุนและการเงิน รวมถึงการสร้างแบรนด์ โดยในส่วนของแฟชั่นนั้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมดีไซเนอร์กรุงเทพ (Bangkok Fashion Society)
ปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งวงการแฟชั่นไทย ที่จะมาปลุกกระแสแฟชั่นในตัวคุณกับแฟชั่นโชว์ 5 รูปแบบ ใน 5 ย่านการค้าแฟชั่นสำคัญในกรุงเทพฯ เพื่อก้าวไปพร้อมกันกับการเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่น ที่จะทำให้ทั่วโลกหันมาจับตาเมืองไทย เพราะเราเชื่อว่า แฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง