“กลุ่มหญ้าแพรกสาละวิน” นำโดย นางสาวอำภา ธวัชวิฑูรย์(นุ้ย) วัย 23 ปี แกนนำ รวมด้วย นางสาวพิชญาภรณ์ พิมานกระสินธุ์(แอพ) วัย 17 ปี นางสาวพรรณี จารุวีรวรรณ(หมวย) วัย 17 ปี และเยาวชนจากบ้านห้วยมะโอ บ้านแม่ลามาน้อย บ้านห้วยกระต่าย บ้านปู่คำ บ้านซิวาเดอ เกือบสิบคน มาร่วมกันทำโครงการ “คนต้นกล้า ป่าต้นน้ำ วิถีปกาเกอะญอ” ในโครงการปลูกใจรักษ์โลกปี 2 ดำเนินงานโดยมูลนิธิกองทุนไทย สนับสนุนโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เกิดผลสัมฤทธิ์จัดกิจกรรม “บวชป่า-ลำห้วย” จนเกิดกติกาการใช้ทรัพยากรในชุมชนร่วมกัน
อาหารที่หายไปจากป่า
เริ่มแรกกลุ่มของ “นุ้ย” สนใจเรื่อง “ป่า” เพราะป่าคือตัวเชื่อมเรื่องอาหาร กล้วยไม้ สุขภาพ มีการวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนพบว่าเรื่องอาหารที่ได้จากป่าลดลง ใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลเริ่มตั้งแต่ในอดีตมีอาหารในป่ากี่ชนิด ในแต่ละฤดูกาลมีอะไรบ้าง ปัจจุบันอะไรที่ลดลงไป มีการสำรวจการกินอยู่และการใช้จ่ายในครัวเรือนเสริมกันไปด้วย พบว่าอาหารในชุมชนที่กินกันเป็นประจำกว่า 90 ชนิด ลดลงอย่างเห็นได้ชัด “พอได้ข้อมูลตัวนี้มา เราก็ชวนชาวบ้านจากแม่ลาน้อยทุกครัวเรือน กว่า 150 คนมาพูดคุยและจัดเป็นเวทีประชุมชาวบ้านขึ้นมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จึงทำให้ชาวบ้านมองเห็นปัญหาดังกล่าว จึงเกิดเป็นมติร่วมของคนในชุมชนว่าน่าจะขับเคลื่อนเรื่องนี้กัน” นุ้ยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการบวชป่าและลำห้วยเพื่อรักษาแหล่งอาหารตามธรรมชาติของชุมชน
ร่วมมือร่วมใจ
เสียงจอแจจ๊อกแจ๊กเริ่มต้นในเช้าวันหนึ่ง ลุง ป้า น้า อา ลูก ๆ หลาน ๆ ในหมู่บ้าน แม่ลามาน้อย และเยาวชนกลุ่มหญ้าแพรกสาละวิน รวมกันกว่าร้อยคนต่างคึกคัก เดินเท้าจากหมู่บ้านจูงมือกันเข้าไปร่วมกันทำกิจกรรมบวชป่าต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำบริเวณเขตป่าสงวนและเขตอุทยานแห่งชาติ จัดพิธีบวชป่า 3 ศาสนา (พุทธ คริสต์ ถือผี) โดยมีนายบุญเกื้อ คุณาธารกุล นายอำเภอสบเมยเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมด้วย
“นุ้ย – อำภา” แกนนำเผย “กิจกรรมบวชป่าทำให้ชาวบ้านได้มาแลกเปลี่ยนกัน ร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น หันมาเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ป่า เป็นความสำเร็จที่เรารู้สึกได้และมีความสุขที่ชาวบ้านเห็นด้วยกับการที่พวกเราเยาวชนมีบทบาทลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ ที่สำคัญยังได้มีการตั้งกฏ กติกา ประจำหมู่บ้านออกมาอีกด้วย เช่น ถ้าใครตัดต้นไม้ในป่าที่บวช จะปรับ 500 บาท ครั้งที่สอง ปรับ 1,000 บาท “เราคิดว่าถ้าไม่มีกฏ ก็จะไม่เกิดผล นอกจากได้ร่วมกันบวชป่าแล้วยังได้บวชลำห้วยไปด้วยมีระยะประมาณ 500 เมตร มีกฏถ้าจับปลา 1 ตัว ปรับ 500 บาท ตัวที่สอง 1000 บาท”
“ชาวบ้านเห็นด้วยกับกิจกรรมนี้ เพราะจากที่เราทำกิจกรรมเสร็จแล้ว เราไปสัมภาษณ์ความรู้สึก ความคิดเห็นชาวบ้าน เขาคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะมีบางอย่างที่กำลังจะหายไป เช่น สัตว์บางชนิดที่ไม่เคยเห็นอีกแล้วในปัจจุบัน
อาหารกลับคืนมา
ผลจากการกระตุ้นให้ชาวบ้านแม่ลามาน้อยตระหนักเรื่องอาหารทำให้ตอนนี้ปัญหาบรรเทาลงชาวบ้านเริ่มแก้ปัญหาเฉพาะหน้า “เราทำผักลอยฟ้า เราหาของที่ปลูกง่ายอย่างหอมแดง ฟักทอง หน่อไม้ ชาวบ้านซื้อเยอะ ชาวบ้านก็เริ่มปลูกเองผสมผสานกับการปลูกข้าวไร่ ช่วงฤดูฝนมีผักเยอะไม่ค่อยมีปัญหาแต่พอหน้าหนาวผักน้อยลงก็หามาทดแทน ลดการซื้อของจากข้างนอกลงไปได้
การร่วมมือร่วมใจของชุมชนในการบวชป่าครั้งนี้ ถือว่าความภาคภูมิใจของน้องๆ เยาวชนกลุ่มหญ้าแพรกสาละวิน ที่วันนี้แม้จะเห็นความสำเร็จแล้ว แต่ทั้งกลุ่มก็ยังไม่หยุดนิ่งที่จะร่วมพัฒนาบ้านเกิดของตัวเองต่อไป
อนึ่ง โครงการปลูกใจรักษ์โลกปี 3 อยู่ในระหว่างคัดเลือกเยาวชนจากทั่วประเทศ เป็นกลุ่มเยาวชนที่มีการทำกิจกรรม ฟื้นฟู ดูแล แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ใน 5 ประเด็นปัญหา ได้แก่ 1).ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ (สภาวะโลกร้อน) และมลภาวะทางอากาศ 2).ปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้ 3).ปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4).ปัญหาการเสื่อมโทรมของแหล่งน้้ำ 5).ปัญหาการเสื่อมโทรมของดิน และจะมีการประกาศผลให้ทราบกันในเร็วๆ นี้ ติดตามได้ที่ www.scbfoundation.com