สิงห์บุรี ไว้ใจให้ สพว. พัฒนาระบบ โลจิสติกส์ ติดอาวุธทางปัญญาผู้ประกอบการอุตฯ - เอสเอ็มอี — โอทอป

จันทร์ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๐๕ ๑๕:๑๙
กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม (สพว.) เร่งพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ธุรกิจเอสเอ็มอี และสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ นำร่องจัดทำโครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หวังลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ให้สามารถแข่งขันในตลาดได้มากยิ่งขึ้น
นายยุทธพงษ์ วัฒนะลาภา รองผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สายการตลาด เปิดเผยว่า สถาบันได้ร่วมมือกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี จัดทำ โครงการพัฒนาระบบการบริหารสินค้าคงคลังและการขนส่ง (Logistics) เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรม และ SMEs ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารสินค้าคงคลังและการขนส่ง นำความรู้ที่ไปประยุกต์ใช้ในสถานประกอบการของตนเองให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสามารถลดต้นทุนและยกระดับการบริหารจัดการให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและ SMEs ต่อไป
สถาบันจะดำเนินการคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 400 คน ที่ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน การบริหารสินค้าคงคลัง การขนส่งและห่วงโซ่อุปทาน จนได้แผนธุรกิจจำนวน 15 สถานประกอบการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับปรุง พัฒนาการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิผล และลดต้นทุนได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีทีมปรึกษาให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นโครงการระยะสั้นที่ต้องการเห็นผลที่ชัดเจนจึงมุ่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ทั้ง 15 สถานประกอบการ ตามปัญหาและความต้องการของแต่ละวิสาหกิจ ส่วนตัวชี้วัดความสำเร็จนั้นประเมินได้จากร้อยละที่เพิ่มขึ้นของรายได้จากสินค้าภาคอุตสาหกรรม
โดยเปรียบเทียบจากปัจจัยการผลิตที่สำคัญคือ การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนสินค้าคงคลังที่ลดลง เนื่องจากสามารถวางแผนและควบคุมการดำเนินงาน โดยเริ่มจากการจัดการวัตถุดิบ สินค้า และบริการ เคลื่อนย้ายจากต้นทางไปยังลูกค้าได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ รวมถึงประสิทธิภาพการวางแผนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย
“ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการรายย่อย นับเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในปัจจุบันผู้ประกอบการมักประสบปัญหาต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศ ทำให้การประกอบธุรกิจได้รับผลกระทบ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุส่วนใหญ่คือขาดความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหาร ทำให้มีต้นทุนการผลิต การขนส่ง จัดเก็บเคลื่อนย้ายสินค้า การจำหน่ายและบริการที่สูงขึ้น โครงการความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการนำร่องสถานประกอบการตัวอย่าง ซึ่งจะทำให้เกิดการรวมกลุ่มโลจิสติกส์สัมพันธ์ อันเป็นประโยชน์ด้านข้อมูลข่าวสารและการบริหารที่ดีอีกด้วย” นายยุทธพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน