จับมือขยายผลองค์ความรู้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สู่นักส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกร

พุธ ๒๔ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๔:๕๖
นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ( สำนักงาน กปร. ) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนขยายผลองค์ความรู้ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของนักส่งเสริมการเกษตรพื้นที่ภาคตะวันออก ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา ที่สำนักงาน กปร. ได้ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ กรมส่งเสริมการเกษตร จัดขึ้น ว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริมาร่วม 33 ปี ทำให้มีการสะสมองค์ความรู้ ก่อเกิดความก้าวหน้าและมีเกษตรกรต้นแบบความสำเร็จจากการศึกษาวิจัยภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ไปประยุกต์ใช้ จนเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่าย ในการขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเครือข่ายที่สำคัญหน่วยหนึ่งคือเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการเผยแพร่และขยายผลความรู้ด้านการประกอบอาชีพและได้ร่วมทำงานสนองพระราชดำริด้านการพัฒนาไปสู่ประชาชนและเกษตรกร ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว ก็จะสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปส่งเสริม ขยายผลให้กับประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบได้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน จะทำให้การขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริเกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ทางด้านนายสุรพล จารุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ กรมส่งเสริมการเกษตรถือเป็นนโยบายที่จะขับเคลื่อนการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่ง และศูนย์สาขาที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช นั้น ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ความสำคัญโดยการคัดเลือกเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมการเกษตร ลงไปทำงานในพื้นที่โดยก่อนหน้านี้ทางกรมฯได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร เข้าไปประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงาน ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ เพื่อเตรียมการที่จะขยายผลผลสำเร็จของศูนย์ศึกษาฯ สู่เกษตรกร ซึ่งเป็นการดำเนินการแบบควบคู่ 2 อย่าง คือ ขยายผลในส่วนของเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะออกไปขยายผล สู่เกษตรกร และนำเกษตรกรที่มีความสนใจในความรู้เรื่องต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ก่อนนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพของตนเองต่อไป

โดยเฉพาะในปี 2557 กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งมาดำเนินการในโครงการนี้ ภายใต้นโยบาย 5 Smart ประกอบด้วย Smart officer คือนักส่งเสริมการเกษตรต้องเป็นนักส่งเสริมมืออาชีพ ที่จะนำพาความรู้ต่างๆ เข้าไปส่งเสริมเกษตรกร ส่วนที่ 2 คือ Smart Farmer คือ เกษตรกรมืออาชีพ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพราะการนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปขยายผลนั้น จะต้องให้เกษตรกรมีความพร้อมที่จะรับจึงจะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ส่วนที่ 3 คือ Smart Group คือ การรวมกลุ่มที่เป็นอย่างมืออาชีพ กลุ่มที่มีความเข้มแข็ง เมื่อเข้มแข็งแล้ว ก็จะสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่ 4 คือ Smart Product ก็คือ ผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับและต้องการของตลาด ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่เพื่อบริโภคเอง ไปจนถึงเพื่อการขาย ซึ่งเกษตรกร ที่ทำการผลิตแล้วจะต้องขายได้ และส่วนที่ 5 คือ Smart Office หมายถึง สำนักงานที่สามารถรองรับและให้บริการพี่น้องประชาชนได้อย่างยอดเยี่ยม ประทับใจ และมีกิจกรรมดีๆ ให้กับพี่น้องประชาชน ได้เข้ามาเรียนรู้เพิ่มเติมผลักดันภูมิปัญญาในการทำการผลิตอย่างก้าวทันต่อวิทยาการสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรมีสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ระดับเขตอยู่ 9 เขต ทั่วประเทศ แต่ละเขต จะมีจังหวัดต่างๆที่อยู่ในการกำกับดูแล เฉลี่ยประมาณ 10 จังหวัด ก็จะมีการจัดทีมงานเข้าไปสำรวจ ประเมินผลการดำเนินงานในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าในการขยายผลงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นที่น่าพอใจ การดำเนินการทุกโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องเกษตรกรที่นำแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จและเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมาก เพราะสามารถลดรายจ่าย ด้วยมีการทำบัญชีครัวเรือน มีแนวคิดในการวิเคราะห์ตัวเองว่าควรจะทำการผลิตอะไร หรือควรประกอบอาชีพไปในทิศทางใด เมื่อได้รับคำตอบการดำเนินกิจการก็จะประสบความสำเร็จ ตรงนี้ทำให้เกิดความสุข ครัวเรือนมีความอบอุ่นมากขึ้น ซึ่งในปีต่อไปๆ ก็จะพยายามขยายผลให้มากขึ้น

“พระราชดำริที่พระราชทานให้กับประชาชนชาวไทย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ มีมุมมองที่เป็นทั้งปรัชญา และแนวคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม โดยเฉพาะส่วนตัว สามารถช่วยให้เกิดความตระหนักไว้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ตรงไหน ความสุขไม่ใช่การมีเงินทองมากมาย แต่ความสุขอยู่ที่การดำรงชีวิตได้อย่างไม่เป็นหนี้ รู้จักว่าคำว่าพอประมาณ นั้นเอง “นายสุรพล จารุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud