อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยชะลอตัวกับโอกาสของอินโดนีเซีย

พุธ ๐๘ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๔:๓๑
บริษัท Ipsos Business Consulting คาดการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปรับตัวลดลงในปี 2557

สถิติล่าสุดแสดงให้เห็นว่ายอดการผลิตรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม ปี 2557 อยู่ที่ 1,320,000 คัน ลดลง ร้อยละ 22.44 เมื่อเปรียบเทียบกับ จำนวนการผลิตช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดย บริษัท Ipsos Business Consulting ได้คาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2557 น่าจะอยู่ที่ราว 2.06 ล้านคัน ( ลดลง 17% เทียบกับ ในปี 2556 ) หากมีปัจจัยผลักดันในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจับลบที่ยังคงส่งผลต่อภาพรวมตลาด อาจทำให้ยอดรวมการผลิตรถยนต์ลดลงได้ถึง 23% อยู่ที่ 1.9 ล้านคัน

มุมมองล่าสุดจาก Ipsos Business Consulting ในตลาดรถยนต์ส่งออก นั้นสามารถทรงตัวได้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยสามารถคงระดับการส่งออกได้เช่นเดียวกับปี 2556 แต่ตลาดรถยนต์ในประเทศนั้นยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก โดยที่สถิติการขายรถยนต์ มกราคม-สิงหาคม 2557 นี้ลดลงกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายสะสมเมื่อปีที่ผ่านมา ด้านผู้ผลิตหลักในตลาดรถยนต์ อาทิ ฮอนด้า ( ยอดขายลดลงกว่า 40% ) โตโยต้า ( ยอดขายลดลงกว่า 26% ) ได้มีการปรับลดการประมาณการการผลิตในประเทศไทย

มร. คอลิน คิงฮอลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท Ipsos Business Consulting กล่าวว่า “ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยนั้น ยังขาดปัจจัยบวกในการส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์ในประเทศนั้นยังคงอยู่ในช่วงที่ชะลอตัว ตัวอย่างที่ชัดเจนคือยอดขายรถยนต์อีโคคาร์ที่ลดลง จากยอดทั้งหมด 180,000 คันในปี 2556 เหลือเพียง 72,000 คัน ในช่วง มกราคม-กรกฎาคม 2557 ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้แต่โครงการที่เป็นถึงหัวใจในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของรัฐบาล การซื้อขายรถยนต์ Eco Car ในประเทศก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงกับยอดตลาดรถยนต์ภายในประเทศ”

ในเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา คุณ สรรค์พิจิตร ส่งไพศาล ผู้จัดการที่ปรึกษา ประจำประเทศไทย ได้กล่าวเน้นย้ำถึงการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนของประเทศไทย ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และบางทีอาจส่งผลกระทบมากกว่านโยบายรถคันแรกของรัฐบาลก่อนหน้า คุณสรรค์พิจิตร ได้กล่าวว่า “ อัตราหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันนั้น อยู่ที่ 219,000บาท ต่อครัวเรือน ไม่เพียงแต่อัตราหนี้ดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่อัตราหนี้ครัวเรือนในไทยนั้นยังคงเพิ่มสูงขึ้น กว่า 16.6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา นี่เป็นการแสดงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในตลาดยานยนต์ ส่งผลต่อการปล่อยสินเชื่อในตลาดรถยนต์ที่จะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น และเป็นปัจจัยลบต่อความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศ”

อินโดนีเซีย: ผู้ท้าชิงหมายเลข 1

ผู้เชี่ยวชาญวงการยานยนต์ในภูมิภาคคาดว่าอินโดนีเซียนั้นจะใช้โอกาสจากปัญหาความต้องการรถยนต์ในประเทศของไทยที่ลดลงในการปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อที่จะก้าวขึ้นเป็นมาผู้แข่งขันที่สำคัญในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในอาเซียน อย่างไรก็ตามทาง บริษัท Ipsos Business Consulting พบว่าอินโดนีเซียเองก็ได้มีการปรับประมาณการผลิตยานยนต์ของปี 2557 ลดลงจาก 1.4 ล้านคัน เป็น 1.3 ล้านคัน เนื่องจากความต้องการในประเทศที่ลดต่ำลงเช่นกัน

“เป็นที่คาดการณ์ว่าอินโดนีเซียจะสามารถพัฒนาตัวเองได้เทียบเท่ากับประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของอาเซียนในอนาคต แต่คำถามอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่” คุณสรรค์พิจิตรกล่าว “ในภาพรวม อินโดนีเซียอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7-10 ปีในการก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับประเทศไทยได้ แต่อย่างไรก็ตามเราจะพบได้ว่าผู้ผลิตชึ้นส่วนยานยนต์ในไทยจะยังคงผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับตลาดอินโดนีเซีย อีกทั้งอินโดนีเซียเองยังคงต้องมีการพัฒนาคุณภาพของทั้งกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกที่สำคัญเทียบเท่าประเทศไทยหรือจีนที่เป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกในปัจจุบัน ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกพอสมควร ดังนั้นประเทศไทยยังคงมีเวลาที่จะวางกลยุทธ์เพื่อรักษาสถานภาพในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในตลาดอาเซียนต่อไป

แนวโน้มในอนาคต

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 เรายังไม่เห็นผลกระทบเชิงบวกของรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกมาในตลาดที่จะดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค มีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่สามารถทำยอดขายได้จากรถยนต์รูปโฉมใหม่ที่เปิดตัวในตลาด อาทิเช่น โตโยต้า อัลติส และ มาสด้า 3 ทำให้ผู้ผลิตหลายค่ายยังคงรอคอยท่าทีจากรัฐบาลในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการลงทุนจากภาครัฐรวมไปถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตลาดช่วงปี 2558 จะทำให้การภาพรวมการผลิตรถยนต์ในไทยสามารถกลับมาอยู่ที่ระดับ 2.4 ล้านคันได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากตลาดยังไม่เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนจะมองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องบิน เป็นต้น

ขณะที่ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในไทยระยะกลางถึงระยะยาวนั้นคงเป็นไปในแง่บวก แต่แนวโน้มในปี 2558 ยังคงมีคำถามอีกหลายประการ เช่น ประเด็นเรื่องหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับที่สูง จึงเป็นการยากที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อีกทั้งการความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยังคงไม่ได้มีการแก้ไขในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 ที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมในระยะสั้นของตลาดในประเทศไทยยังคงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงและยังคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ เวปไซต์ www.ipsosconsulting.com หรือ สรรค์พิจิตร ส่งไพศาล, ผุ้จัดการประจำประเทศไทย, Ipsos Business Consultingโทร: +66 2697 0105 อีเมลล์: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน