เคล็ดลับป้องกันโรคตาจากการใช้อุปกรณ์ไอที

อังคาร ๒๑ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๗:๐๙
เคล็ดลับป้องกันโรคตาจากการใช้อุปกรณ์ไอที

โดย พญ.ชลธิชา จารุมาลัย

จักษุแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวท

ปัจจุบันอุปกรณ์ไอที เข้ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์สำนักงาน โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ ล้วนเป็นเครื่องมือที่เรามีความจำเป็นต้องใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเพื่อประโยชน์ในการทำงาน ใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสาร หรือแม้กระทั่งใช้เป็นกิจกรรมผ่อนคลายสร้างความเพลิดเพลิน โดยที่ลืมนึกไปว่าการใช้สายตาจ้องมองหน้าจอจากอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลเสียต่อดวงตาโดยไม่รู้ตัว

พญ.ชลธิชา จารุมาลัย จักษุแพทย์ รพ.ปิยะเวท ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันมีคนไข้มาปรึกษาหมอเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตาค่อนข้างมาก และมีจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาสายตาจากสาเหตุของการใช้พวกอุปกรณ์สื่อสารเป็นประจำ อาการของคนไข้ที่พบบ่อย ๆ เช่น อาการปวดตา เคืองตา แสบตา น้ำตาไหล ซึ่งพอซักประวัติคนไข้ก็พบว่าเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้ บางคนต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมทั้งวันต้องมองทั้ง จอภาพ แป้นพิมพ์ และเอกสารสลับกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการอ่านตัวหนังสือจากจอคอมพิวเตอร์จะต้องเพ่งมากกว่าปกติ สายตาต้องปรับโฟกัสอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีการพักนั้นอาจจะทำให้น้ำไปหล่อเลี้ยงตาไม่พอ อาจทำให้เกิด อาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาแดงได้ ทางที่ดีแนะนำให้พักสายตาทุก ๆ 20 – 30 นาที โดยวิธีการละสายตาจากหน้าจอ หรือการหลับตาพักสายตาเป็นเวลา 3 – 5 นาทีเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้ แต่ถ้าหากพักสายตาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นอาจใช้ยาหยอดตาชนิดมีน้ำหล่อลี้ยงเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวได้ อีกปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยคือ ปัญหาตามัว หรือการเกิดภาพซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่พอซักประวัติอย่างละเอียดของผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะพบว่า เกิดจากการใช้สายตาอยู่หน้าจอเป็นเวลาที่นานมาก ๆ โดยไม่มีพักสายตาเลย เฉลี่ยคือมากกว่า 4 ช.ม. ต่อวัน จะส่งผลให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า จึงเกิดอาการตาพร่ามัวและเห็นภาพเป็นภาพซ้อนได้

ทั้งนี้คุณหมอยังฝากคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ไอที แบบรักษาสุขภาพดวงตาว่า เริ่มแรกควรปรับจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองก่อน สำหรับคนที่มีปัญหาจากการจ้องหรือใช้สายตาอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ไม่ควรอยู่หน้าจอต่อเนื่องนานเกิน 4 ช.ม. โดยไม่ได้พักสายตา รวมทั้งควรจัดสภาพแวดล้อมการวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมในที่บ้านหรือที่ทำงาน คือ ต้องมีแสงสว่างเพียงพอ โต๊ะ เก้าอี้ สูงพอเหมาะ และระดับของหน้าจอให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 10 – 15 องศา และควรนั่งห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 45 – 70 เซนติเมตร ลดแสงสว่างของหน้าจอลงปรับขนาดตัวหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป จะได้ไม่ต้องเพ่งสายตามากจนเกินไป ทั้งนี้หากลองทำตามวิธีดังกล่าวแล้วอาการที่เกิดกับดวงตาต่าง ๆ ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะเรามีดวงตาเพียงคู่เดียวการรักษาดวงตาของเราให้อยู่กับเราไปนาน ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ

นุชราภรณ์ เลียบไทสง แผนกสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลปิยะเวท

บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) โทร. 02-7326069

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๒ สมศักดิ์ ชูต้นแบบ NCDs Prevention Center 12 เขตสุขภาพ และโรงเรียนรักษ์ไต ล้านนา R1 พร้อมหนุน ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 สานต่อนโยบายคนไทย ห่างไกล
๑๘:๒๘ ยามาฮ่า เปิดฉาก Yamaha Thailand Music Festival 2025 เดินหน้าปลุกพลังนักดนตรีรุ่นใหม่กว่า 5,000 คน ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 1.7
๑๘:๔๒ มหาดไทย ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
๑๘:๑๐ ร้านอาหารเวฬาภิรมย์ ณ โรงแรม วิลล่า เทวา รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารอันยอดเยี่ยม
๑๗:๑๑ สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
๑๘:๑๓ บัตรเครดิต ทีทีบี ส่งโปรโมชัน ช้อปซูเปอร์คุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท
๑๗:๔๗ สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนโรงพยาบาลหัวเฉียว อายุ 50 ปีขึ้นไป
๑๗:๐๐ กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน เนื่องในวันคุ้มครองโลก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๑๗:๔๑ ผลิตภัณฑ์ Ax Tile EcoSoft(R) จาก Royal Thai แบรนด์ในเครือ TCM Corporation ได้รับรางวัล ASA Platform Selected Materials
๑๗:๔๐ ฉลองครบรอบ 87 ปี มอบสุขภาพดีด้วย. ชุดตรวจสุขภาพและวัคซีนป้องกันโรค