โดยบับบา โชว์ช็อตมหัศจรรย์ระเบิดทรายทำอีเกิ้ลในหลุมสุดท้าย ก่อนเฉือนเพลย์ออฟชนะ ทิม คลาร์ก โปรแอฟริกาใต้ คว้าแชมป์เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ได้เป็นครั้งแรก และพร้อมแล้วที่จะพาฟอร์มร้อนเรงมาดวลกับยอดนักกอล์ฟระดับโลกในการแข่งขัน “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2014” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 33 ล้านบาท) ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ในระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคมนี้
ทั้งนี้เจ้าของแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส สองสมัย ลงแข่งขัน ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ เป็นครั้งที่ 3 โดยสองครั้งที่ผ่านมาทำผลงานดีสุดด้วยการรั้งรองแชมป์ร่วมกับ ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง นักกอล์ฟหนุ่มของไทยในปี 2012 โดยแชมป์ครั้งนั้นตกเป็นของ ชาร์ล ชวาร์ทเซล โปรจากแอฟริกาใต้ ซึ่งทำสกอร์ทิ้งห่างอันดับสองร่วมถึง 10 สโตรค
โปรชาวอเมริกันวัย 36 ปี หวังทำผลงานที่ประเทศไทยให้ได้ดีเหมือนเล่นที่จีน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “การคว้าแชมป์ในต่างประเทศเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งความหวังไว้มาตลอด และสามารถทำได้สำเร็จที่จีน จึงเป็นนินิตหมายที่ดีสำหรับการไปแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ในเดือนหน้า ซึ่งผมมีช่วงเวลาที่ดีที่นั่น และชอบที่จะเล่นที่สนามอมตะสปริง หวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์ให้ได้อีกสักรายการ”
ทางด้าน เชสสัน แฮดลีย์ โปรกอล์ฟอเมริกันเจ้าของรางวัล รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ของพีจีเอ ทัวร์ฤดูกาล 2014 และการ์ลอส ออร์ติช นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของเว็บดอทคอม ทัวร์ (Web.com Tour) ล่าสุดตอบรับร่วมประชันวงสวิงครั้งแรก โดยทั้งคู่เผยไม่หวั่นที่จะต้องประชันฝีมือกับกับบรรดาโปรกอล์ฟชื่อดังระดับโลกที่ต่างยืนยันเข้าร่วมแข่งขันในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น เซอร์จิโอ การ์เซีย แชมป์เก่าชาวสเปน, มาร์ติน คายเมอร์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ชาวเยอรมัน, ลี เวสต์วูด แชมป์ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพปี 2011 จากอังกฤษ ที่มาพร้อมกับ วิคตอร์ ดูบุยส์ซง เพื่อนร่วมทีมไรเดอร์ คัพ ชาวฝรั่งเศส รวมถึงเออร์นี เอลส์ นักกอล์ฟระดับตำนานจากแอฟริกาใต้
สำหรับ แฮดลีย์ วัย 27 ปี คว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ ครั้งแรกในรายการเปอร์โตริโก โอเพน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจบอันดับ 49 บนตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ ขณะที่ออร์ติซ วัย 23 ปี คว้าแชมป์ 3 รายการในเว็บดอทคอม ทัวร์ จนได้สิทธ์เข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ ฤดูกาล 2014-2015 โดยอัตโนมัติ ทั้งคู่มีประสบการณ์ลงเล่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาบ้างแล้วในรายการซีไอเอ็มบี คลาสสิก ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งกระตุ้นความกระหายให้อยากมาร่วมแข่งขันกอล์ฟในภูมิภาคนี้มากขึ้น และทั้งสองคนก็ตั้งเป้าทำผลงานได้ดีในการลงชิงชัยที่สนามอมตะ สปริง เป็นครั้งแรก
แฮดลีย์ โปรกอล์ฟเจ้าของความสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว กล่าวว่า "เมื่อเห็นรายชื่อนักกอล์ฟและคุณภาพของการแข่งขันในไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการเข้าร่วมแข่งขันในเอเชีย ผมได้ศึกษาเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับทัวร์นาเมนต์นี้ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย และตั้งตารอคอยที่จะได้ลงสนามแข่งขัน หากผมสามารถปิดฉากปีด้วยการคว้าแชมป์จะเป็นเรื่องที่วิเศษมากทีเดียว”
ด้าน ออร์ติซ ซึ่งเกิดที่เมืองกัวดาลาจารา ในเม็กซิโก และได้ลงฝึกซ้อมที่สนามเดียวกับ ลอเรนา โอชัว ตำนานของแอลพีจีเอทัวร์ โดยปีนี้เขาลงเล่นในระดับอาชีพเป็นฤดูกาลแรกและทำผลงานยอดเยี่ยม สามารถคว้าแชมป์ปานามา คลาโร แชมเปี้ยนชิพ, เอล บอสเก้ เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ และวินโค ฟูดส์ ปอร์ตแลนด์ โอเพ่น เจ้าตัวเผยรู้สึกตื่นเต้นมากกับการเดินทางมาร่วมแข่งขันที่ประเทศไทยครั้งแรก เขากล่าวว่า "กอล์ฟกลายเป็นเกมกีฬาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และผมรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้มาโชว์ศักยภาพให้แฟนกีฬากอล์ฟชาวไทยได้เห็นการประชันฝีมือกับแชมป์เมเจอร์ ผู้เล่นไรเดอร์ คัพ และนักกอล์ฟฝีมือดีที่สุดของเอเชีย จะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและช่วยให้ผมพัฒนาการเล่นในระดับอาชีพ”
การแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกจากเป็นรายการก่อนทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในโปรแกรมเอเชียน ทัวร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการลุ้นอันดับทำเงินรางวัลสะสม หรือออร์เดอร์ ออฟ เมอริต รายการนี้ยังได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งใน ดิ โอเพ่น ควอลิฟายอิง ซีรีส์ เพื่อชิงสิทธิ์เข้าไปเล่นในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ส ในปีหน้า โดยมีโควตาให้ 4 ที่จากรายการนี้