การแข่งขัน “Crash the Super Bowl” ในปีนี้เป็นไปอย่างดุเดือด และในวันนี้โดริโทสได้ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบรองสุดท้าย 29 คนจาก 7 ประเทศ ซึ่งมีโอกาสชิงเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมคว้าตำแหน่งงานในฝันที่ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส โดยผลงานโฆษณาที่เข้ามาถึงรอบนี้ได้ผ่านการคัดเลือกจากผลงานเกือบ 4,900 ชิ้นที่ส่งมาจาก 29 ประเทศทั่วโลก
ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา แฟนๆทั่วโลกได้ร่วมแบ่งปันความรักที่มีต่อโดริโทสด้วยการสร้างสรรค์และส่งผลงานโฆษณาทางโทรทัศน์ความยาว 30 วินาทีเข้ามาประกวดทางเว็บไซต์ Doritos.com โดยท้ายที่สุดจะมีผลงานโฆษณา 2 ชิ้นที่ได้ออกอากาศสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนในระหว่างการถ่ายทอดการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 ซึ่งเป็นศึกชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอล (เอ็นเอฟแอล) ประจำปีของสหรัฐอเมริกา เจ้าของผลงานโฆษณาที่ได้รับคะแนนโหวตจากแฟนๆมากที่สุดจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมคว้าโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนในการแข่งขันครั้งที่ผ่านๆมา นั่นคือ โอกาสในการทำงานกับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สในฮอลลีวู้ดเป็นเวลา 1 ปีเต็ม และจะได้ใช้พรสวรรค์ด้านการสร้างสรรค์ในการทำโปรเจคท์มากมาย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ในอนาคตของยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สอย่าง “Pitch Perfect 2” และภาพยนตร์คอเมดี้ชื่อดังอีกหลายเรื่อง สามารถชมผลงานโฆษณาของบรรดาผู้เข้ารอบรองสุดท้ายและดูกติกาการแข่งขันอย่างเป็นทางการได้ที่ www.doritos.com
ผลงานโฆษณาของผู้เข้ารอบรองสุดท้ายในการแข่งขัน “Crash the Super Bowl” (เรียงลำดับตามนามสกุลของผู้เข้ารอบ) ได้แก่
- "Doritos Angler" by James Bedford, UK
- "Baby's First Word" by Travis Braun, USA
- "Meditasting" by Luke Seer Brown, Australia
- "Doritos Hand" by Todd Dack, USA
- "Tea Time!" by Josh Day, USA
- "Mom?" by Markus Erhart, Germany
- "Selfish Sneezers" by Devon Ferguson, Canada
- "Gone Ape" by Hugh Fleming, Australia
- "History Bites" Adam J. Hardy, USA
- "Girl Voice" by Keith Hopkin, USA
- "The Lemonade Stand" by David Horowitz, USA
- "I Did That" Zeke Hunter, USA
- "Blind Date" by Haidy Bahgat Zakher Ibrahim, Egypt
- "Trouble in the Back Seat" by Jason Johnson, USA
- "Mis-Spelling Bee" by Brian Kleinschmidt, USA
- “Cheesy Teasy” by Perry Lang, USA
- “Doritos Tiny Mouth” by Chuck McCarthy, USA
- "Dog Dreams" by Brandon Morris, USA
- "The Pink Slip" by David Olson, USA
- “What Could Go Wrong?” by Alex Pepper, USA
- “The Portal” by Jorgen Persson, Sweden
- "Doritos Manchild" by Armand de Saint-Salvy, Australia
- "Buried Treasure" by Jessica Sattelberger, USA
- "Wish Upon a Dorito" by Matthew Shoychet, Canada
- "Summer of '64" by Dan Stowell, USA
- "When Pigs Fly" by Graham Talbot, Canada
- "Thief Catcher" by Johan A. du Toit, Canada
- "Nice Bag" by Carl Vasile, USA
- "Middle Seat" by Scott Zabielski, USA
คณะกรรมการตัดสินจะคัดเลือกผลงานโฆษณา 10 ชิ้นจากรายชื่อข้างต้นเพื่อเข้าสู่รอบสุดท้าย ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากกว่าปีก่อนหน้าถึงสองเท่า โดยคณะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วยบรรดาผู้บริหารของโดริโทส ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา และนักแสดง/โปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่างเอลิซาเบธ แบงก์ส ที่กำลังจะนั่งแท่นผู้กำกับเป็นครั้งแรกในเรื่อง "Pitch Perfect 2" อีกทั้งยังมีผลงานแสดงในภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เช่น “The 40-Year-Old Virgin” “Seabiscuit” และ “Pitch Perfect” รวมทั้งภาพยนตร์ภาคต่อชื่อดังระดับโลกอย่าง “The Lego Movie” “The Hunger Games” และ “Spider-Man”
โดริโทสจะเปิดเผยรายชื่อผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในช่วงต้นเดือนมกราคม 2558 พร้อมกับเปิดโอกาสให้แฟนๆทั่วโลกร่วมโหวตให้กับผลงานโฆษณาที่ชื่นชอบได้ทางเว็บไซต์ www.doritos.com ผลงานโฆษณา 2 ชิ้นจะได้ออกอากาศในระหว่างการถ่ายทอดศึกซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 โดยผลงานที่มีคะแนนโหวตมากที่สุดจะคว้ารางวัลใหญ่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนผลงานที่ถูกใจแบรนด์โดริโทสจะได้รับรางวัล 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้เข้ารอบสุดท้าย 10 คนจะได้รับเชิญเข้าร่วมชมการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 จากห้องชมการแข่งขันส่วนตัวสุดหรู พร้อมลุ้นชมผลงานโฆษณา 2 ชิ้นที่จะเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก สำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายอีก 8 คนที่ผลงานไม่ได้รับเลือก จะได้รับเงินรางวัลคนละ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ
เกี่ยวกับโดริโทส
โดริโทส เป็นแบรนด์ขนมชั้นนำแบรนด์หนึ่งของบริษัทเป๊ปซี่โค (NYSE: PEP) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกียวกับโดริโทส สามารถรับชมได้ที่ www.doritos.com
เกี่ยวกับเป๊ปซี่โค
บรรดาผู้บริโภคต่างเพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์ของเป๊ปซี่โคกว่า 1 พันล้านครั้งต่อวันในกว่า 200 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เป๊ปซี่โคมีรายได้สุทธิมากกว่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของบริษัท เช่น ฟริโต-เลย์ เกเตอเรด เป๊ปซี่-โคล่า เควกเกอร์ และทรอปิคานา เป๊ปซี่โคมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอันหลากหลาย ซึ่งรวมถึงแบรนด์ดัง 22 แบรนด์ที่แต่ละแบรนด์มียอดขายปลีกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
เป๊ปซี่โคดำเนินงานอย่างมีจุดมุ่งหมาย (Performance with Purpose) เพื่อนำเสนอศักยภาพทางการเงินอย่างเหนือชั้น พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อมูลค่าของผู้ถือหุ้น โดยในทางปฏิบัติ Performance with Purpose หมายถึงการผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีทั้งความอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ คิดค้นแนวทางใหม่ๆเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนในการดำเนินงาน สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและใส่ใจแก่พนักงานทั่วโลก ตลอดจนให้ความเคารพ สนับสนุน และลงทุนในชุมชนที่เราดำเนินงาน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ www.pepsico.com
ติดตามข่าวสารจากเป๊ปซี่โคได้ที่
- Twitter (@PepsiCo) [twitter.com/pepsico]
- Facebook [www.facebook.com/PepsiCo]
- PepsiCo Blogs [pepsicoblogs.com]
- PepsiCo Press Releases [www.pepsico.com/Media/Press-Releases.html]
- PepsiCo Multimedia [multimedia.pepsico.com]
- PepsiCo Videos [http://www.youtube.com/user/PepsiCoVideo]
เกี่ยวกับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส
ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เป็นบริษัทในเครือของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ( www.universalstudios.com ) โดยยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ อยู่ในเครือของเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นบริษัทสื่อและความบันเทิงชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก ในแง่ของการพัฒนา ผลิต และเผยแพร่สื่อบันเทิง ข่าว และข้อมูลสู่ผู้ชมทั่วโลก เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล เป็นเจ้าของและผู้บริหารเครือข่ายข้อมูลข่าวสารและความบันเทิง บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ชั้นนำ และสวนสนุกระดับโลก ทั้งนี้ เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล เป็นบริษัทในเครือของคอมคาสต์ คอร์ปอเรชั่น
บรอดคาสต์/ สื่อสิ่งพิมพ์/สื่อโทรทัศน์: สามารถรับชม ดาวน์โหลด และแบ่งปันวิดีโอคุณภาพสูง รูปภาพ และข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ www.magicbulletmedia.com/MNR/crashthesuperbowl