เมอเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เปิดตัว เมอเวนพิค รีสอร์ท แหลมใหญ่บีช สมุย บนหาดที่มีทิวทัศน์อาทิตย์ยามอัสดงอันงดงามที่สุดของเกาะสมุย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม โดยโรงแรมในประเทศไทยแห่งล่าสุดของกลุ่มโรงแรมสัญชาติสวิสนี้เป็นบูติครีสอร์ทที่มีห้องพัก วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำ วิลล่าริมหาด และ วิลล่าขนาดสองห้องนอน จำนวนทั้งหมด 50 ห้อง
รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสมุย และเมื่อมองออกไปจาก รีสอร์ทจะเห็นเกาะต่างๆ ของอ่าวไทย หาดแหลมใหญ่อันงดงามบริสุทธิ์ตามธรรมชาติมอบหาดทรายที่เป็นส่วนตัว และทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ตกดินอันแสนงดงามและเลื่องชื่อ แขกที่เข้าพักสามารถดื่มด่ำไปกับอาหารไทยและอาหารนานาชาติได้ที่ร้านอาหาร เดอะ เทอร์เรซ พร้อมด้วยค็อกเทลแสนชื่นใจที่ เดอะ เด็ค บาร์ ริมสระว่ายน้ำหนึ่งในสามสระของรีสอร์ท
แขกที่เข้าพักสามารถใช้บริการทรีทเม้นท์และการบำบัดแผนไทยโบราณด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติที่ชบาสปา หรือพายเรือคายัคและดำน้ำแบบสนอร์กเกิลเพื่อชมความงามของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง นอกจากนี้ยังสามารถไต่เขาในป่ารอบๆรีสอร์ท เที่ยวชมวัด หรือเลือกซื้อสินค้าจากหมู่บ้านชาวประมงในท้องถิ่น
เมอเวนพิค รีสอร์ท แหลมใหญ่บีช สมุย ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเพียง 30 นาที และเนื่องจากเป็นเกาะในเขตร้อน จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจัดงานแต่งงานอันแสนโรแมนติค หรือจัดงานสังสรรค์เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ โดยสามารถรองรับการจัดเลี้ยงมื้อค่ำสำหรับแขกจำนวน 30 ท่าน นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังสามารถจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพสำหรับคู่สมรสได้ตามต้องการอีกด้วย
รีสอร์ทที่หาดแหลมใหญ่บนเกาะสมุยนี้ เป็นโรงแรมแห่งที่สามในประเทศไทยที่บริหารโดยเมอเวนพิคต่อจากโรงแรมที่หาดบางเทาและหาดกะรนในจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญที่สุดของเมอเวนพิค โดยทางกลุ่มโรงแรมระดับบนกลุ่มนี้มีแผนที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่งใน 4 ปีข้างหน้า
โรงแรมที่บริหารโดยเมอเวนพิคและจะเปิดเป็นแห่งต่อไปในประเทศไทย คือ ที่พัทยา โดยจะเปิดในปลายปี 2558 ตามด้วยโรงแรมในเชียงใหม่ และสุริวงศ์ในปีถัดไป และกำลังวางแผนที่จะบริหารโรงแรมอีกสองแห่งในหัวหินและกรุงเทพฯ
มร. อังเดรอัส แมทมุลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เมอเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ตะวันออกกลางและเอเชีย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยว เนื่องจากมีชายหาดอันสวยงามน่าประทับใจ ป่าอันเขียวชอุ่ม และมรดกทางวัฒนธรรมอันแสนพิเศษ การท่องเที่ยวมีส่วนช่วยเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศไทยเป็นอย่างมากและเรามั่นใจว่าประเทศไทยจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการท่องเที่ยวที่สำคัญในระยะยาว”
ทศพล สถิตวิทยากุล กรรมการบริหาร บริษัทธนากรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมกล่าวเสริมว่า “ผมรอที่จะได้ร่วมงานกับเมอเวนพิคและยกระดับมาตรฐานการดำเนินการของโรงแรมริมหาดอันงดงามแห่งนี้ให้สูงยิ่งขึ้น และเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น ความงามของหาดนี้โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ตกดิน แวดล้อมด้วยเนินเขาเขียวขจี ทำให้ เมอเวนพิค รีสอร์ท แหลมใหญ่บีช สมุย เป็นบูติครีสอร์ทที่โรแมนติคที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะสมุย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เราจะใช้ต่อยอดชื่อเสียงของโรงแรมต่อไป”
เมอเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กำลังอยู่ในขั้นตอนของการขยายแบรนด์อย่างเป็นระบบในแถบเอเชีย โดยตั้งเป้าที่จะบริหารโรงแรมอย่างน้อย 25 แห่งในทวีปเอเชียภายในปี 2563 โดยมีสำนักงานภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง ขณะนี้ เมอเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท มีโรงแรมทั้งหมด 81 แห่งทั่วโลก