นายปีติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในการเสวนาครั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรน่าจะเป็นแกนกลางในการจัดตั้งกองทุน เสมือนเป็นธนาคารกลางของสหกรณ์ เพื่อเป็นกองทุนสำรองสำหรับพัฒนาและฟื้นฟูสภาพที่มีปัญหาของการเงินได้ ภายใต้ความร่วมมือจากภาครัฐ อาทิเช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และภาคเอกชนต่าง ๆ มุ่งเน้นให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นอย่างดีอีกด้วย