บลจ.ไทยพาณิชย์ ออกกองใหม่ เดินหน้าลุยหุ้น Mid/Small Cap มองตลาดหุ้นไทยปี 58 ปัจจัยบวกหนุน

อังคาร ๑๓ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๔:๕๓
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯเตรียมที่จะเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap(SCB Mid/Small Cap Equity Fund) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

เนื่องจากในขณะนี้ระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจลงทุนแล้วและมองว่าเป็นจังหวะตลาดที่เหมาะสมในการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กโดยกำหนดให้เปิดจองซื้อระหว่าง วันที่ 15 – 20 ม.ค. 2558ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกเพียง 5,000 บาท และครั้งถัดไปเพียง 1,000บาท

สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Capมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ไม่รวมอยู่ในดัชนีSET50 และ/หรือลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอมีการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุกมุ่งเน้นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงและต่อเนื่องตลอดจนเน้นการลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้จะเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาทิ กลุ่มส่งออก กลุ่มที่มีกิจการต่างประเทศ กลุ่มท่องเที่ยวและจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าปลีกกลุ่มขนส่ง รวมถึงการลงทุนและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและระบบไอที เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังรวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมีการเติบโตของกำไรในระดับดีอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจลงทุน

นายสมิทธ์ กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในปี 2558การลงทุนในตลาดทุนยังเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมและจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ

ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำและมีเม็ดเงินสภาพคล่องเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ในหลายภูมิภาค

สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจีดีพีจะปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 3 –3.5% และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นประมาณ15% เนื่องจากฐานกำไรสุทธิที่ค่อนข้างต่ำในปี 2557 โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ได้ประมาณการณ์เป้าหมายของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2558อยู่ระหว่าง 1,664 – 1,792 จุด ที่ระดับค่า P/E ที่ 13 – 14 เท่าซึ่งเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันที่ 1,500จุดยังคงมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด