นายวีรชัยให้การยอมรับว่าได้ยกสุนัขให้นายไกรทองไปฆ่าเพื่อการบริโภคตามพล.ต.ต. วีรวุฒิ เนียนน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายงานการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นายวีรชัย จึงถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหากระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 20 พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557
นายไกรทองถูกจับกุมในเวลาต่อมา และให้การยอมรับสารภาพว่าได้ทำการฆ่าสุนัขโดยใช้ของแข็งทุบหัว จึงถูกดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 20 เช่นเดียวกัน
นายวีรชัยและนายไกรทองถูกตัดสินให้จำคุกหนึ่งปี คุมประพฤติ และปรับคนละ 8,000 บาทมิสเตอร์จอห์น ดัลลี ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย องค์กรการกุศล ซึ่งเป็นผู้นำในการให้ความช่วยเหลือการจัดสวัสดิภาพสุนัขและแมวในประเทศไทย กล่าวว่า “ขณะที่เรายินดีกับการใช้กฎหมายและคำตัดสิน เราก็ยังคงมีความเป็นห่วงว่าศาลอาจจะไม่พิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดให้ต้องระวางโทษสูงสุดตามที่กฎหมายอนุญาต (จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ซึ่งจุดประสงค์หลักของการตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดเป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก หากประชาชนเข้าใจว่าการกระทำของตนอาจนำไปสู่การพิพากษาให้ต้องจำคุก การฝ่าฝืนกฎหมายก็จะลดลง นี่นับเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ศาลจะให้แสดงให้ประชาชนเห็นว่าไม่ควรทารุณกรรมสัตว์”
พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ฉบับแรกของไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลังจากความพยายามผลักดันอย่างแข็งขันโดยมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยและองค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์อื่นๆเกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย: มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นในปี 2546 และได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดที่ถูกทอดทิ้งหรือถูกทำร้าย ในประเทศไทย คุณจอห์น ดัลลี่ ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมให้สัมภาษณ์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิและกิจกรรมของเรา
หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเวบไซต์ของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ ที่ www.soidog.org หรือ www.facebook.com/soidoginthai