สังเกตตัวเอง...เลี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ

จันทร์ ๐๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๓:๔๓
คนใกล้ตัวอาจต้องช่วยอีกแรงเมื่อพบความผิดปกติเช่นแขนขาอ่อนแรงคอแข็งพูดไม่รู้เรื่องต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วเพื่อตัดโอกาสอัมพฤกษ์อัมพาตการรักษาด้วยเวลาที่รวดเร็วบวกกับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่มีประสิทธิภาพจะช่วยผู้ป่วยให้กลับมาเหมือนเดิมได้ดีที่สุด

เปิดเผยถึงอันตรายจากภาวะหลอดเลือดสมองตีบซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับการเป็นอัมพฤกษ์ - อัมพาตเพราะรักษาไม่ทัน ซึ่งผู้ใกล้ชิดเท่านั้นที่จะมีโอกาสสังเกตเห็นอาการของผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ อาทิ ผู้ป่วยมีอาการแขนขาอ่อนแรง คอแข็ง พูดไม่ออก ฟังไม่เข้าใจ พูดคุยไม่รู้เรื่อง โดยที่บางรายอาจเกิดอาการในช่วงที่ไม่มีคนใกล้ชิดอยู่ด้วย หรือเกิดขึ้นขณะที่เป็นเวลาพักผ่อนทำให้แพทย์ระบุเวลาที่เกิดอาการได้ยาก ส่งผลให้ผู้ป่วยบางรายในกลุ่มนี้อาจต้องสูญเสียโอกาสในการรักษาไป

ยังนับว่าเป็นโชคดีที่วิวัฒนาการก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันได้ช่วยให้แพทย์มีเครื่องมือที่สามารถตรวจสอบได้ว่าสมองของผู้ป่วย มีการขาดเลือดไปเลี้ยงนานเพียงใด ส่งผลให้การวินิจฉัยอาการเป็นไปอย่างแม่นยำและรักษาได้ทันท่วงทีมากขึ้น โดยที่เครื่องมือดังกล่าวจะมีซอฟแวร์พิเศษที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นบริเวณที่สมองขาดเลือดแล้วจึงนำผู้ป่วยไปเข้าตรวจเพิ่มเติมด้วยการฉีดสีหลอดเลือดสมอง ซึ่งให้ผลการตรวจเป็นภาพ 2 มิติ และ 3 มิติสามารถหมุนดูได้ 360 องศาและเห็นลักษณะของหลอดเลือดได้ทุกมุม จึงช่วยให้การวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยในขั้นตอนต่อไปเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพมากขึ้น

การรักษาภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบในอดีตอาจทำได้เพียงวินิจฉัยจากบริเวณที่เส้นเลือดตาย หากโชคดีเส้นเลือดที่ตายเป็นเส้นเลือดเล็กก็จะส่งผลเพียงทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นอัมพฤกษ์ชั่วคราว ซึ่งยังสามารถฟื้นตัวได้หากทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอแต่บางกรณีที่ผู้ป่วยโชคร้ายเพราะเกิดอาการขึ้นที่เส้นเลือดใหญ ่ก็ต้องเผชิญกับภาวะอัมพาตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงและอาจช่วยได้โดยเพียงรักษาตามอาการซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องเส้นเลือดอุดตัน

ปัจจุบันแพทย์สามารถพิจารณาการรักษาที่ต้นเหตุของปัญหาคือการอุดตันของเส้นเลือดด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดในบริเวณที่ตันโดยตรงหรือรักษาโดยการใส่สายสวนร่วมกับการใช้บอลลูนขยายหลอดเลือดแต่มีข้อจำกัดว่าผู้ป่วยต้องมาถึงมือแพทย์ภายใน 8 ชั่วโมง เพราะหากช้ากว่านี้สมองของผู้ป่วยอาจตายไปแล้วทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้อยลง

ด้วยเหตุนี้บุคคลใกล้ชิดจึงถือว่ามีความสำคัญต่อผู้ป่วยภาวะหลอดเลือดสมองตีบอย่างมากเพราะมีโอกาสสังเกตเห็นอาการผิดปกติของผู้ป่วยได้ก่อนใครซึ่งหากรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสช่วยเหลือหรือรักษาผู้ป่วยได้มาก วิธีสังเกตง่ายๆ คือหากพบว่าคนใกล้ชิดมีการอ่อนแรงเฉียบพลัน หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงไม่ว่ากรณีใดๆ ควรรีบนำส่งแพทย์เป็นดีที่สุดเพราะหากได้รับการรักษาอย่างถูกที่ถูกเวลาแล้วโอกาสที่ผู้ป่วยจะหายและกลับสู่สภาพปกติก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999

www.ram-hosp.co.th

www.facebook.com/ramhospital

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๙ ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๑๗:๕๑ GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๑๗:๒๗ กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๑๗:๑๔ กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๑๗:๒๕ First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๑๗:๐๒ CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๑๗:๑๑ บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๑๗:๕๒ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๑๗:๐๑ รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๑๗:๔๓ กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว