นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า การเสร็จสมบูรณ์ของโรงงานอิชิตัน กรีน แฟคทอรี่ ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการบุกตลาดเพิ่มขึ้น ด้วยกำลังการผลิตสูงถึง1,000 ล้าน ขวด และ 200 ล้านกล่องต่อปี และกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้าน ขวด ต่อปี ทำให้อิ ชิ ตัน บริหารต้นทุนการผลิต การดำเนินงาน และสต็อคสินค้า อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะผลิตเครื่องดื่มอิชิตัน กรีนที และเย็นเย็นซึ่งเป็นสินค้าของ ICHI เอง แล้ว ยัง มีความสามารถในการผลิตเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ ได้หลากหลาย จนสามารถเปิดแผนกรับจ้างผลิต (OEM) สร้างรายได้เสริมให้ องค์กร ตั้งเป้าราย ได้ 120 ล้านบาทใน ปีแรก โดยจะใช้ความเชี่ยว ชาญ และต้นทุนที่ได้เปรียบเป็นกลยุทธ์ สำคัญ พร้อมดันไบเล่ น้ำผลไม้ไม่อัดลม เปิดหมวดสินค้าใหม่ลงสนามแข่งที่มีมูลค่าตลาดรวม12,000 ล้านบาท ใน ไตรมาส 2/58 ตั้งเป้ารายได้ 600 ล้าน บาท ขณะเดียวกัน ก็ จะ ดันยอดอีก 280 ล้านบาท จากการส่งออก ทุก ผลิตภัณฑ์ ในเครืออิชิตันไปยังพม่า, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และจีน เพิ่มเติม
ส่วนความร่วมมือระหว่าง อิชิตัน กรุ๊ป กับ บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด ประเทศอินโดนิเซีย อันมีบริษัท มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นร่วม ในนามบริษัท อิชิตัน อินโดนิเซีย มีกำหนดวางจำหน่ายสินค้า เครื่องดื่มอิชิตันกลุ่มแรก ในประเทศ อินโดนิเซีย ภายในไตรมาส 2/2558 อิ ชิตัน อินโดนีเซีย ได้ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 800-1,000 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2558 ไว้ 7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 6,209 ล้าน บาท และคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้น 16-18% จาก ปี 2557 ที่มี กำไรสุทธิ 1,200 ล้านบาท โดยคาดการณ์แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มทั้งระบบสำหรับปี 2558 จะอยู่ที่ 17,700 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นราว 15% จากกลุ่มชา ผสม สมุนไพร และชาเพื่อสุขภาพ เทรนด์ไม่หวาน หรือหวานน้อย ซึ่งมั่นใจว่า ICHI จะยังคงครอง แชมป์อันดับ 1 ในตลาดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากปี 2557 ICHI ครองแชมป์ด้วยสัดส่วนสูงถึง 43.8%