โครงการฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา กุญแจสู่การพัฒนาชุมชน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

พุธ ๐๘ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๐:๓๔
การพัฒนาสังคมเมืองเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลก แต่ละประเทศต่างมีแผนพัฒนาเมืองและชุมชนของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจและชุมชนผู้อยู่อาศัย นับเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้ผู้นำชุมชนต้องวางแผนระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตต่อไปได้ โครงการต่างๆ จึงก่อให้เกิดคำถามที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และสังคมต้องร่วมกันหาคำตอบโดยเร็วที่สุด

“นิวยอร์ค ไฮ ไลน์” เป็นทางรถไฟยกระดับที่เชื่อมสู่โรงงานและคลังสินค้าในยุครุ่งเรืองของการพัฒนาเมืองนิวยอร์คในช่วงกลางทศวรรษที่ 1930 (ปีพ.ศ.2473) เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ทันสมัย ต่อมา ทางรถไฟสายนี้ได้ถูกยกเลิกและปล่อยให้รกร้าง จนกระทั่งในปี 1999 (ปีพ.ศ.2542) ชาวนิวยอร์ค 2 คนคือ นายโจชัว เดวิด และนายโรเบิร์ต แฮมมอนด์ เล็งเห็นโอกาสในการนำพื้นที่นี้กลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้งกับโปรเจกต์ที่ผสมผสานระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย แผนการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน จึงนำไปสู่การก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร นั่นก็คือ องค์กร Friends of The High Line

และเมื่อเร็วๆ นี้ นายโจชัว เดวิด เดินทางมากรุงเทพมหานคร เพื่อแชร์เรื่องราวสุดพิเศษเกี่ยวกับความสำเร็จของโครงการ The High Line จากเส้นทางรถไฟลอยฟ้าอันเสื่อมโทรมจนกลายมาเป็นสวนสาธารณะและเส้นทางเดินเท้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความยาวถึง 2.3 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบัน สวนลอยฟ้าแห่งมหานครนิวยอร์คนี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 5ล้านคนต่อปีให้ก้าวไปสู่สถานที่ยอดฮิตในดวงใจของชาวนิวยอร์คและนักท่องเที่ยว และยังได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาคธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ ไมเคิล บลูมเบิร์ค อดีตนายกเทศมนตรีของมหานครนิวยอร์ค รวมทั้งนักแสดงสาว ซาร่า เจสสิกา พาร์คเกอร์

นายโจชัว เดวิด ได้พูดคุยและพบปะกับตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนระหว่างการเยี่ยมชมสำนักงานขายโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวทเรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้สังเกตถึงความคล้ายคลึงกันระหว่าง The High Line กับโครงการฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำยานนาวา โดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design & Development Centre) หรือ UddC“ความสำเร็จของโครงการอย่าง The High Line หรือโครงการที่ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) กำลังพัฒนาอยู่ ยังคงต้องการความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าปราศจากความร่วมมือเหล่านี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่โครงการต่างๆ จะประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่ ดังนั้น คนทำงานที่มีเป้าหมายร่วมกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในการช่วยเติมเต็มชีวิตให้กับผืนน้ำและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ชุมชนริมน้ำ” นายโจชัวกล่าว

นายเดวิด โรบินสัน ผู้อำนวยการ Bangkok Rivers Partners (BRP) หนึ่งในกลุ่มที่มุ่งมั่นพัฒนาแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นจุดหมายปลายทางของชาวไทยและชาวต่างชาติ ดึงดูดความสนใจนักธุรกิจ และเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ริมน้ำ ได้ยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำทั่วโลกมากมายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการชุบชีวิตพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในเมืองให้มีชีวิตใหม่ ซึ่งBangkok Rivers Partners (BRP) กำลังส่งต่อแรงบันดาลใจนี้สู่โครงการริมน้ำยานนาวา กรุงเทพมหานครเช่นกัน

“จุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่าง The Rocks Sydney เซาธ์แบงค์ ลอนดอน, V&A Waterfront เคป ทาวน์, Marina Bayในประเทศสิงคโปร์ และ The High Line ในมหานครนิวยอร์ค ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส อีกทั้งยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของชุมชนนั้นๆ วิสัยทัศน์ของเราในโครงการฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำย่านยานนาวาแสดงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งพิเศษให้เกิดได้ที่กรุงเทพฯ ด้วยเสน่ห์ความเป็นไทย ซึ่งพร้อมที่จะสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจและชุมชน และยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเยือนเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้”

บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ หนึ่งในบริษัทเอกชนที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการเดินทางของนายเดวิดสู่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ และเมื่อเร็วนี้ๆ ได้เปิดตัวโครงการเจ้าพระยา เอสเตทโครงการริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา และโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่ 35-2-68 ไร่ มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาวตลอดแนว 350 เมตร ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2561

นางสาวขวัญฤดี มณีวงศ์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร กล่าวว่า “หนึ่งในองค์ประกอบหลักของการออกแบบโครงการเจ้าพระยา เอสเตทคือ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของบริษัทที่มีต่อคนไทยทั้งประเทศ จุดประสงค์ของโครงการเจ้าพระยา เอสเตทไม่ใช่แค่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับที่พักอาศัยริมน้ำในกรุงเทพมหานครและเอเชีย แต่ยังทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถบนั้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่เรามีโอกาสได้พัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและพิเศษที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเราอยากเห็นกรุงเทพมหานคร เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีพื้นที่ริมน้ำที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว