ก.พลังงาน เผย ยอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดสร้างสถิติใหม่ อยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติปี 57 ราบคาบ

อังคาร ๒๑ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๗:๑๕
ก.พลังงาน เผย ยอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดสร้างสถิติใหม่ อยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติปี 57ราบคาบ เหตุจากสภาพอากาศร้อนจัดอุณหภูมิใกล้แตะ 40 องศา ส่งผลการใช้พลังงานทะลุขีดจำกัด วอนทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ประหยัดพลังงาน แนะประชาชนปรับพฤติกรรมใช้ไฟฟ้า สู้วิกฤตหน้าร้อนนี้

นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ. ถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีค(Peak) ของประเทศไทย ที่ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา14.13 น. ทำลายสถิติพีคเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา (วันที่ 7 เมย.) ที่ระดับ 27,056.8 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ได้ทำลายสถิติพีคของปี 2557 ที่ระดับ 26,942.1 เมกะวัตต์มาแล้ว โดยสถิติพีคใหม่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาจากสาเหตุสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ จากสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดดังกล่าว กระทรวงพลังงานคาดว่ามีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้สร้างสถิติพีคของปีนี้อีกหลายครั้ง หากสภาพอากาศยังคงร้อนอบอ้าว และมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้พลังงานมากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจ อาคารสำนักงาน ออฟฟิต และประชาชนทั่วไป ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากกรณีที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้

ดังนั้น กระทรวงพลังงาน จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน และประชาชนทั่วไป ช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยเฉพาะการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หรือล้างแอร์ในช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำความเย็นได้ดีขึ้น ร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ การปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส หรือถ้าสามารถปรับอุณหภูมิแอร์เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยประหยัดไฟฟ้าลงได้ร้อยละ 10 เช่น การปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส การปลดปลั๊กไฟที่ไม่ใช้ เปลี่ยนหลอดไฟประหยัดพลังงาน โดยมาตรการทั้งหมดดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานขอแจ้งสรุปผลในช่วงที่มีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากประเทศ เมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 10 – 19 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซยานาดา-เยตากุน นั้น ไม่ได้มีการส่งผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทย และปัจจุบันอยู่ระหว่างการหยุดซ่อมบำรุงที่แหล่งซอติก้า ประเทศเมียนมาร์ (20 – 27 เมษายน 2558) โดยกระทรวงพลังงานขอยืนยันว่าสถานการณ์การผลิตไฟฟ้าในประเทศมีความมั่นคงต่อเนื่อง และพร้อมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน