โรงพยาบาลธนบุรีพร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ครอบทุกสาขากว่า 400 คน และพยาบาลวิชาชีพกว่า 390 คน พร้อมด้วยเตียงรองรับผู้ป่วยในถึง 435 เตียง ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการมีความเชื่อมั่นในการดูแลรักษา และพึงพอใจในมาตรฐานของการบริการตลอดมา
นายเฉลิมกุล อภิบุณโยภาส ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลธนบุรี กล่าวว่า “อุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนซึ่งเติบโต 10% ส่วนผลประกอบการของโรงพยาบาลธนบุรีในปี 2557 ที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ประมาณ 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,781 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางหลักของโรงพยาบาลเช่น ศูนย์ระบบประสาทและสมอง ศูนย์กระดูกและข้อ และศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับนั้น มีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ” นายเฉลิมกุล กล่าวถึงการพัฒนาของโรงพยาบาลในปี 2557 ที่ผ่านมาว่า “โรงพยาบาลธนบุรีมุ่งมั่นในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายพื้นที่ให้บริการศูนย์ระบบประสาทและสมอง สร้างศูนย์จักษุแห่งใหม่เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น เพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมีการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการและรองรับการขยายตัวในอนาคต
สำหรับในปี 2558 คาดว่าโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชนยังคงมีการขยายตัว 7-10 % จากระดับความต้องการบริการด้านสุขภาพที่ยังอยู่ในระดับสูงจากกลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยแผนธุรกิจในปี 2558 โรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายพื้นที่ศูนย์โรคกระดูกและข้อ และสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่ขนาด 276 คัน บนเนื้อที่ 700 ตารางวา เพื่อรองรับผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น โดยใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นปี 2559 สำหรับแผนระยะสั้นจะมีการสร้างศูนย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง ซึ่งอยู่ด้านหน้าของโรงพยาบาล โดยเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ส่วนแผนระยะยาวในการสร้างอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่เพื่อพัฒนาศักยภาพให้โรงพยาบาลธนบุรีเป็นศูนย์การแพทย์โรคเฉพาะทางที่ใหญ่ที่สุดทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลมีแผนขยายกิจการต่างๆ เช่น ศูนย์เฉพาะทางด้านผู้สูงอายุ (HOME HEALTH CARE) เพื่อรองรับการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุประมาณ 10 % ของประชากรประเทศไทย โดยใช้งบลงทุน 200-300 ล้านบาท , ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย (CONVALESCENCE) สำหรับรองรับกลุ่มผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล 2-3 วันแรกและต้องพักฟื้นต่อภายหลังทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้กับผู้ป่วย, ศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูก เป็นอาคาร 12 ชั้น อยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่ ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตพญาไทงบลงทุน 1,500 ล้านบาทและศูนย์เฉพาะทางด้านหัวใจ โดยขยายศูนย์หัวใจไปตามโรงพยาบาลเครือข่ายเช่น โรงพยาบาลภัทรธนบุรี โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต และโรงพยาบาลอบต.พัทยา ใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
อีกทั้งทางโรงพยาบาลเตรียมจะเปิดให้บริการ Mobile Application สำหรับการนัดหมายแพทย์ผ่านมือถือในวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในการติดต่อกับโรงพยาบาลอีกด้วย
“สำหรับรายการส่งเสริมการขาย โรงพยาบาลธนบุรีมีการเสนอโปรแกรมตรวจสุขภาพโรคเฉพาะทางราคาประหยัดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมตรวจสุขภาพกระดูก โปรแกรมประกันราคาผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม โปรแกรมตรวจภาวะสมองเสื่อม และโปรแกรมส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการของเรามากขึ้น”
“สำหรับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โรงพยาบาลธนบุรียังคงดำเนินการตามแผนที่จะเข้าไปทำตลาดเชิงรุกมากขึ้นในประเทศที่มีศักยภาพสูงอย่างพม่า และกัมพูชา ซึ่งจะขยายตลาดผ่านบริษัทตัวแทนเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้ารับรู้ว่าโรงพยาบาลธนบุรีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการการรักษาที่มีคุณภาพสูง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก อีกทั้งทำการจัดตั้งสำนักงานส่งต่อผู้ป่วยที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อรองรับการขยายตัวผู้ป่วยต่างชาติในกลุ่มประเทศ AEC”
นายเฉลิมกุล กล่าวต่ออีกว่า “โรงพยาบาลธนบุรียังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับสำนักงานเขตบางกอกน้อยในการให้ความรู้ด้านสุขศึกษาและบริการตรวจสุขภาพกับพ่อค้าแม่ค้าในชุมชน การตรวจสุขภาพและบรรยายให้ความรู้ผู้สูงอายุบริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงพยาบาล การให้ความรู้ด้านสุขภาพกับครูและนักเรียนโรงเรียนในพื้นที่ การเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดกับสถานีตำรวจนครบาล บางกอกน้อย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาลอีกด้วย
เพื่อเป็นการตอกย้ำการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน นายเฉลิมกุล กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรายังคงมุ่งมั่นจะเป็นโรงพยาบาลมาตรฐานระดับแนวหน้าของประเทศ ที่ผู้รับบริการไว้วางใจและพึงพอใจสูงสุด โดยนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงมาใช้ การจัดหาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถมาให้บริการด้วย มาตรฐานจริยธรรม เพื่อที่สุดของการรักษาและการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับทุกชีวิตที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา ทางโรงพยาบาลธนบุรีได้รับประกาศนียบัตรรับรองกระบวนการคุณภาพ HA (Hospital Accreditation) จากสถาบันรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ซึ่งเน้นการพัฒนา การดูแลผู้ป่วยและการบริหารองค์กร คุณภาพ ซึ่งเราต้องขอขอบพระคุณท่านผู้มีอุปการคุณที่ให้ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นตลอดเป็นระยะเวลา 37 ปี ที่ผ่านมา”