พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีตัวแทนพนักงานจ้างเหมาศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือกรณีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการไม่ต่อสัญญาพนักงานจ้างเหมาของศูนย์ จำนวน ๒๘ เขต จำนวนกว่า ๒๐๐ คน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลคนชรา และผู้ป่วยในชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ที่หมดสัญญาในเดือน พ.ค.๒๕๕๘ ทำให้พนักงานได้รับผลกระทบ จึงเรียกร้องให้มีมาตรการช่วยเหลือนั้น ตนมีความห่วงใยพนักงานกลุ่มดังกล่าว และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้หลักเมตตา ดูแล ไม่ให้ทอดทิ้งกัน เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งในวันนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) ได้จัดโครงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนภารกิจโครงสร้างของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่๑๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดงาน“นัดพบแรงงาน พม. หางาน งานหาคน” เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับข้าราชการ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว รวมทั้งการช่วยเหลือดูแลผู้เดือดร้อนจากการว่างงาน ซึ่งจัดให้มีบริการจัดหางาน เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้และการประกอบอาชีพทดแทน รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการหาตำแหน่งงานใหม่ได้มีช่องทางสมัครงาน ทั้งนี้ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีสถานประกอบการภาคเอกชนร่วมกิจกรรมออกบูธในการจัดหางาน กว่า ๒๐ แห่ง และมีตำแหน่งงานว่าง กว่า ๒,๐๐๐ ตำแหน่ง นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังได้สำรวจความต้องการของเจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้าง พบว่า ส่วนหนึ่งต้องการประกอบอาชีพในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนใหญ่ต้องการกลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาเดิม ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเร่งหาตำแหน่งงานว่างในหน่วยงานของสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯในแต่ละจังหวัด เพื่อรองรับพนักงานดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) ได้รับพนักงานดังกล่าวบางส่วนที่มีประสบการณ์บริการคนพิการเข้าทำงานแล้ว
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ ๒๕-๓๐ ปี บุกเข้าข่มขืนกระทำชำเราหญิงชราวัย ๖๒ ปี ภายในบ้าน โดยใช้เสียมตีที่ท้ายทอย ก่อนฉุดกระชากออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่อยู่บ้านตามลำพัง สร้างความหวาดผวาให้กับผู้สูงอายุและผู้หญิงในหมู่บ้าน ที่จังหวัดนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว (พมจ.สระแก้ว) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและรวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อนำมาใช้ในการเฝ้าระวังและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งขอให้สมาชิกในครอบครัวดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างงใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกกระทำโดยใช้ความรุนแรงจากบุคคลอื่น