MQDC กวาดยอดขายคอนโด “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” ไปแล้วกว่า 80% ชูจุดขายมาตรฐานโครงการและออกแบบตามมาตรฐาน “สถาบันอาคารเขียวไทย” “ระดับ Gold” (GOLD TREES-NC) ตอกย้ำความแกร่งด้านวิจัยและพัฒนา พร้อมเตรียมเปิดโครงการให

ศุกร์ ๐๕ มิถุนายน ๒๐๑๕ ๑๑:๑๒
MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยวคอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับลักชัวรี่ และเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัย แบรนด์วิสซ์ดอม ประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” เพื่อลงชิงแชร์ในย่านดังกล่าว โดยล่าสุดสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 80% คาดปิดการขายหมดทั้งโครงการภายในปีนี้

นายถนอมศักดิ์ แก้วเขียว รองประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ MQDC บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยล่าสุดว่า บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวคอนโด “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” เมื่อปลายไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งทันทีที่เปิดตัวก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมและตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกครอบครัววิสซ์ดอมกับเรา ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่ากำลังซื้อในระดับกลางถึงบนยังมีความต้องการคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยได้อย่างแท้จริงอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้หลักๆ แล้ว เป็นผลมาจากการพัฒนาแนวคิดโครงการที่เป็นที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การออกแบบแต่ละส่วนของโครงการตาม “มาตรฐานวิสซ์ดอม” และนำเกณฑ์จาก “สถาบันอาคารเขียวไทย” ที่ได้รับความเชื่อถือมาประเมินคุณภาพ คุณภาพโครงการ ระดับ GOLD ของเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย (TREES - NC) เพื่อพิสูจน์และยืนยันความมั่นใจในคุณภาพให้กับการอยู่อาศัยและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี

“เราเชื่อมั่นว่าตลาดคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพยังเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ตั้งอยู่ตามแนวระบบขนส่งมวลชน อาทิ BTS และ MRT ซึ่งนโยบายต่อจากนี้ของเราเองก็มุ่งเน้นที่จะพัฒนาโครงการให้ใกล้กับระบบดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดกว่าในครึ่งปีหลังนี้เราจะมีการนำเสนอโครงการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน และที่สำคัญเราจะยังคงแนวคิดการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผสานความลงตัวในด้านควาสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งเชื่อมั่นว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดมิเนียมในสไตล์ดังกล่าวนี้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวเข้าสู่ AEC ที่จะมีกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติเข้ามานั้น ยิ่งต้องมองหาคอนโดมิเนียมที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งทุกอย่างนั้นรวมอยู่ในแผนการพัฒนาโครงการของเราอยู่แล้ว” นายถนอมศักดิ์ แก้วเขียว กล่าว

ทั้งนี้ คอนโดมิเนียม วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยคุณภาพ จำนวน 1 อาคาร สูง 27 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ 42 ตารางวา มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณถนนลาดพร้าวตัดกับถนนรัชดา ด้านหน้าติดกับทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการ อาทิ ห้องแบบสตูดิโอ ขนาดพื้นที่ 27 ตารางเมตร, แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 30-38 ตารางเมตร, แบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 47-56 ตารางเมตร, แบบดูเพล็กซ์ ขนาดพื้นที่ 76-77 ตารางเมตร และแบบเพ้นซ์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ 105-129 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นที่ 3.8 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 ภายในโครงการพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ด้วยพื้นที่สีเขียวทั้งบนพื้นดินและพื้นที่สีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่ กว่า 1,700 ตารางเมตร เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วย Sunset Lounge หรือห้องสมุด สำหรับต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน หรือนั่งอ่านหนังสือสบายๆ ในบรรยากาศท้องฟ้ายามเย็น Sky Infinity Edged Swimming Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่บนชั้นสูงสุด เพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ Sky Lounge สำหรับการสังสรรค์ที่เหนือระดับ กับวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา และ Whizdom Lobby ดีไซน์โมเดิร์น เสมือนหน้าบ้านที่สะท้อนความมีรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ พร้อมเจ้าหน้าที่และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

โดยโครงการถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด ผสมผสานการวิจัยและพัฒนา เข้ากับการดีไซน์ และความใส่ใจในเรื่องการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ออกแบบตามมาตรฐาน “สถาบันอาคารเขียวไทย” (Thai Green Building Institute) คุณภาพอาคาร “ระดับ GOLD” (TREES-NC) เพื่อนำเสนอโครงการคุณภาพที่ตอบสนองทุกฟังก์ชั่นของชีวิต และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในทุกวัน อาทิ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ภายในห้องพักสอดคล้องกับหลักสรีระศาสตร์เหมาะสมกับระยะร่างกายของมนุษย์เพื่อความสะดวกสบายสำหรับทุกกิจกรรม อยู่สบายและไม่รู้สึกอึดอัด การวางตำแหน่งไฟ ตำแหน่งแอร์ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย ทิศทางการวางตำแหน่งตัวตึกสอดคล้องกับทิศทางแสงอาทิตย์และทิศทางลม เพื่อลดความร้อน และเพิ่มการหมุนเวียนถ่ายเทของอากาศภายในห้องพัก เป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสบายให้ผู้อยู่อาศัย การจัดวางห้องพักซึ่งเริ่มต้นที่ชั้น 5 เพิ่มความเป็นส่วนตัวและห่างไกลจากเสียงรบกวน มีการออกแบบสวน และแนวต้นไม้ช่วยบังแนวเสียงและฝุ่นละอองในอากาศที่จะพัดเข้าสู่ตัวอาคาร เป็นต้น

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-789-9999 หรือทางเว็บไซต์ www.MQDC.com

MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น คือ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยวคอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพ ระดับลักชัวรี่ ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการระดับคุณภาพ โดยผสมผสานการวิจัยและพัฒนา เข้ากับการดีไซน์อย่างมีคุณภาพที่ใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนของมนุษย์ ตลอดจนการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพให้กับผู้คน ทั้งผู้อยู่อาศัยในโครงการ และชุมชนโดยรอบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud