ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของ The Positive Cup ซึ่งเป็นกลยุทธ์มุ่งสู่ความยั่งยืนภายในปี 2563 ของเนสเปรสโซ นาย Jean-Marc Duvoisin ซีอีโอของเนสท์เล่ เนสเปรสโซ ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญของกลยุทธ์ดังกล่าวที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟหลายพันคนในประเทศต่างๆ ตั้งแต่เซาท์ซูดานไปจนถึงโคลอมเบีย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ AAA Sustainable Quality(TM) Program ของบริษัท
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150701/227656 )
นาย Duvoisin กล่าวว่า "เราได้ลงทุนมากมายเพื่อความยั่งยืน ซึ่งก้าวแรกที่เราดำเนินการคือการฟื้นฟูอุตสาหกรรมกาแฟในเซาท์ซูดาน และขณะนี้ เรากำลังสนับสนุนแผนเงินออมเพื่อการเกษียนอายุ เพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกรในโคลอมเบีย เหล่านี้อาจเป็นก้าวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ผมก็มีความภาคภูมิใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟคุณภาพสูงให้กับธุรกิจของเราและเหล่าสมาชิก Club Members ของเรา
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เนสเปรสโซได้ร่วมมือกับบริษัท TechnoServe เพื่อช่วยฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมกาแฟในเซาท์ซูดาน ซึ่งส่งผลให้เซาท์ซูดานมีการส่งออกกาแฟได้เป็นครั้งแรกในปี 2556 และยังเป็นการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันไปยังยุโรปเป็นครั้งแรก เนสเปรสโซตั้งเป้าที่จะผลิตกาแฟหายากชนิดใหม่จากเซาท์ซูดาน ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการจัดหาแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นด้วย
William Warshauer ประธานและซีอีโอของบริษัท TechnoServe กล่าวว่า "TechnoServe มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับเนสเปรสโซในการช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวเซาท์ซูดานหลายพันคน เรามุ่งให้ความสำคัญกับการใช้วิธีทางธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาความยากจนโดยไม่แสวงผลกำไร เราจึงเชื่อว่า การลงทุนในรูปแบบนี้จะส่งผลดีต่อการพัฒนาในระยะยาว"
Joseph Malish Thomas เกษตรกรชาวเซาท์ซูดานผู้เข้าร่วม AAA Program ของเนสเปรสโซ กล่าวว่า "ผมมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีมากเกิดขึ้นในชุมชน เราต้องการจะผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ผู้คนก็เริ่มมีความหวัง เราจะมีเงินชำระค่าเทอมให้เด็กๆ และได้พัฒนาประเทศในท้ายที่สุด"
เนสเปรสโซมีเป้าหมายที่จะใช้วัตถุดิบกาแฟทั้งหมด 100% จากโครงการ AAA Sustainable Quality(TM) Program ภายในปี 2563 ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการขยายโครงการไปยังเคนยาและเอธิโอเปีย เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนเกษตรกรมีทักษะ มีความพอเพียง และมีความยั่งยืน ซึ่งใน 12 เดือนที่ผ่านมา เนสเปรสโซ และ TechnoServe ได้จัดฝึกอบรมและการช่วยเหลือทางเทคนิกแก่เกษตรกรจำนวนกว่า 10,000 คน ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คนภายในปี 2563
นอกจากการขยาย AAA Program ในแอฟริกาแล้ว เนสเปรสโซยังได้เดินหน้าจัดทำแนวทางสวัสดิการรูปแบบใหม่เพื่อให้การปลูกกาแฟยังคงดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้ โดยเมื่อปีที่แล้วเนสเปรสโซร่วมกับกระทรวงแรงงานของโคลอมเบีย องค์กร Fairtrade International และสหกรณ์กาแฟท้องถิ่น เปิดตัวแผนเงินออมเพื่อการเกษียณอายุ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องสำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วม AAA Program ในเมืองคาลดาส ประเทศโคลอมเบีย ขณะนี้มีเกษตรกรที่ผ่านการรับรอง AAA Fairtrade ลงทะเบียนเข้าร่วมในแผนเงินออมเพื่อการเกษียณอายุแล้วจำนวน 850 คน ภายในขอบเขตของโครงการ Colombian Beneficios Economicos Periodicos (BEPS) และเงินออมก้อนแรกได้ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรแล้วในเดือนพฤษภาคม 2558
Delio Gonzalez เกษตรกรระดับ AAA กล่าวว่า "แผนเงินออมนี้ทำให้เรามีความหวังว่าเราจะสามารถเกษียนอายุได้ เพื่อที่เมื่อถึงวัยเกษียณ เราจะได้พักผ่อนและใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข"
Harriet Lamb ซีอีโอของ Fairtrade International กล่าวว่า "เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่กลับยังไม่มีหนทางที่จะช่วยเหลือตนเองเมื่อถึงวัยเกษียณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเนสเปรสโซและ Fairtrade International จึงร่วมมือกับเหล่าเกษตรกรในโคลอมเบียในการผลักดันแผนเงินออมเพื่อการเกษียนอายุ เนสเปรสโซได้เริ่มคัดสรรกาแฟที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Fairtrade จากสหกรณ์อกวาดัส ในเมืองคาลดาส ประเทศโคลอมเบีย ในปี 2557 และปัจจุบัน มีเกษตรกรกว่า 800 คนตัดสินใจนำเงิน Fairtrade Premium ส่วนหนึ่งมาลงทุนในการวางแผนเพื่อการเกษียนอายุ เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าการปลูกกาแฟเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวได้ ทั้งยังสามารถอนุรักษ์ส่วนสำคัญของเศรษฐกิจและมรดกของโคลอมเบียอีกด้วย"
นอกจากนี้ เนสเปรสโซยังได้ผลักดันความคืบหน้าของแผนวนเกษตร ทั้งนี้ การอนุรักษ์ต้นกาแฟในภูมิภาคที่เพาะปลูกกาแฟจะช่วยปกป้องระบบนิเวศทางธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ไร่กาแฟสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น และยังรับประกันการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนในอนาคต ในปี 2557 มีการปลูกต้นกาแฟประมาณ 130,000 ต้นในกัวเตมาลาและโคลอมเบีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องต่างๆ และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีการปลูกต้นกาแฟราว 200,000 ต้น ในเอธิโอเปียและกัวเตมาลา และจะมีการปลูกเพิ่มอีก 300,000 ต้นในเม็กซิโกและโคลอมเบีย ภายในสิ้นปี 2558 นี้
Tensie Whelan ประธาน Rainforest Alliance กล่าวว่า " Rainforest Alliance ร่วมมือกับเนสเปรสโซและ AAA Program นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2546 เราเห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเหล่าเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ครอบครัวและชุมชนของพวกเขาอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงผลประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ ขณะนี้เนสเปรสโซ Rainforest Alliance และ Pur Projet กำลังเดินหน้าสานต่อความสำเร็จผ่านแผนวนเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการปรับตัวต่อภัยคุกคามที่แท้จริงในปัจจุบัน นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น การร่วมมือกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของเราที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟนั้น ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานของการจัดหากาแฟคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกของเนสเปรสโซ"
เนสเปรสโซพัฒนาโครงการ Nespresso AAA Sustainable Quality(TM) Program ร่วมกับองค์กรเอ็นจีโออย่าง Rainforest Alliance เพื่อการจัดหากาแฟคุณภาพสูงสุด ปกป้องสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงสวัสดิการเกษตรกร ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรกว่า 63,000 คนใน 11 ประเทศ เข้าร่วมในโครงการ และได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือทางเทคนิค การฝึกอบรบ ราคาที่สูงกว่า และการลงทุนในสาธารณูปโภค
ข้อมูลเพิ่มเติม:
แนวทางความยั่งยืนของเนสเปรสโซ: http://www.nestle-nespresso.com/sustainability
โครงการ Nespresso AAA Sustainable Quality(TM) Program: http://www.nestle-nespresso.com/sustainability/the-positive-cup/coffee
สมาชิกและคำอธิบายจาก Nespresso Sustainability Advisory Board: http://www.nestle-nespresso.com/sustainability/sustainability-advisory-board/sustainability-advisory-board
วิดีโอ:
แนวทางวนเกษตรของเนสเปรสโซ: https://www.youtube.com/watch?v=3eKEXaimnCQ
โครงการของเนสเปรสโซในเซาท์ซูดาน: https://www.youtube.com/watch?v=jcc84bpiGDM
เนสเปรสโซในเอธิโอเปีย: https://www.youtube.com/watch?v=PqBYcuX12bI
เกี่ยวกับ เนสท์เล่ เนสเปรสโซ เอสเอ
บริษัท เนสท์เล่ เนสเปรสโซ เอสเอ (Nestle Nespresso S.A.) เป็นผู้บุกเบิกและแบบฉบับกาแฟพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงสุด สำนักงานใหญ่ของบริษัทอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนสเปรสโซเปิดให้บริการใน 62 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 10,500 คน ในปี 2557 บริษัทมีเครือข่ายค้าปลีกด้วยร้านจำหน่ายกว่า 400 แห่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมเว็บไซต์เนสท์เล่ เนสเปรสโซ ได้ที่ http://www.nestle-nespresso.com
เกี่ยวกับ The Positive Cup
ในเดือนสิงหาคม 2557 เนสเปรสโซได้เปิดตัวกลยุทธ์มุ่งสู่ความยั่งยืนภายในปี 2563 ที่มีชื่อว่า The Positive Cup โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์ของบริษัทในการลดผลกระทบและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกสำหรับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านทางโครงการและความร่วมมือในรูปแบบที่สร้างสรรค์ กลยุทธ์นี้ต่อยอดมาจากมาตรการสำคัญๆที่บริษัทได้ดำเนินการตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงสวัสดิภาพของเกษตรกรและผลักดันความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในการเพาะปลูกกาแฟและการบริโภค ด้วยเป้าหมายสูงสุดในด้านต่างๆ ได้แก่ การเพาะปลูกกาแฟและสวัสดิการสังคม การจัดหาอลูมิเนียม การใช้และทิ้ง และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nestle-nespresso.com/sustainability
ข้อมูลติดต่อ
Diane Duperret
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กร
เนสท์เล่ เนสเปรสโซ เอสเอ
โทร: +41-21-796 9289