ก.พลังงาน ชี้เทรนด์การพัฒนาพลังงานทดแทนเอเชียมาแรง เผยญี่ปุ่นวางโมเดลส่งเสริมรูปแบบคล้ายไทย

จันทร์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๐๙
ก.พลังงาน ชี้เทรนด์การพัฒนาพลังงานทดแทนเอเชียมาแรง เผยญี่ปุ่นวางโมเดลส่งเสริมรูปแบบคล้ายไทย ดันยอดผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มั่นใจหากเกิดความร่วมมือไทย ญี่ปุ่นจะถอดบทเรียนการพัฒนาพลังงานทดแทนใหม่ให้มีต้นทุนต่ำลง และส่งเสริมงานวิจัยพลังงานรูปแบบใหม่

นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า นโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยเฉพาะความโดดเด่นการพัฒนาพลังงานทดแทนของไทยในปัจจุบัน ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างดี โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงพลังงานได้พบปะกับ นายมิชิโอะ ฮาชิโมโตะ (Dr.Michio Hashimoto) ผู้อำนวยการองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จากประเทศญี่ปุ่น (New Energy Technology Department Organization JAPAN) หรือ NEDO ซึ่งเข้ามาหารือถึงทิศทางการส่งเสริมพลังงานทดแทน ในกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพื่อผลิตไฟฟ้า ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจอย่างยิ่งในขณะนี้ และพบว่าเกิดการลงทุนต่อเนื่องจากนโยบายการส่งเสริมที่มีรูปแบบคล้ายกับการส่งเสริมในประเทศไทย

ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นได้ใช้ระบบส่วนเพิ่มรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed in Tariff (FiT) มากระตุ้นให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนให้เกิดการลงทุน โดยมี FiTสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์ที่ระดับ 27 เยนต่อหน่วยหรือประมาณ 7.5 บาทต่อหน่วย ระยะเวลา 20 ปี และ FiT สำหรับพลังงานลม ที่ระดับ 22 เยนต่อหน่วยหรือประมาณ 7 บาทต่อหน่วย ระยะเวลา 20 ปี โดยผลที่ได้รับพบว่าเกิดการลงทุนโดยเฉพาะในพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตัว โดยจากเดิมที่พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนผลิต 5,600 เมกะวัตต์ในปี 2555 แต่ภายหลังที่ภาครัฐใช้ระบบ FiT เพื่อส่งเสริมจนถึงปัจจุบัน เกิดการลงทุนสูงถึง 23,708 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นสูงถึง 18,108 เมกะวัตต์ ภายในระยะเวลา 3 ปี

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ยังได้หารือถึงผลกระทบค่าไฟฟ้า ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นพบว่า เกิดผลกระทบจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริม โดยจากเดิมในปี 2555 สำหรับครอบครัวที่มีการใช้ไฟฟ้าที่ระดับเฉลี่ย 300 หน่วยต่อเดือน จะค่าใช้จ่ายค่าไฟประมาณ 8,000 เยนต่อเดือน หรือ 2,200 บาทต่อเดือน พบว่าได้รับผลกระทบค่าไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนประมาณ 87 เยนต่อเดือนต่อครอบครัว แต่การคำนวนในปัจจุบันพบว่าหากมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเข้าระบบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะมีผลกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 474 เยนต่อเดือนต่อครอบครัว รวมทั้งประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มมีปัญหาเรื่องระบบสายส่งในบางพื้นที่ซึ่งแม้ปัจจุบันจะมีสายส่งที่มีกำลังส่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการหยุดผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บางส่วน แต่หากมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้นตามแผน ก็อาจส่งผลกระทบเป็นคอขวดได้เช่นเดียวกับประเทศไทย

นายทวารัฐ กล่าวเพิ่มว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและ NEDO เพื่อการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการศึกษาต้นทุนของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนดังกล่าวซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีงานวิจัยที่จะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นรวมถึงฐานองค์ความรู้ใหม่ๆจากญี่ปุ่นให้ไทย โดยเฉพาะงานวิจัยพลังงานรูปแบบใหม่สำหรับอนาคต เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน