ชูผลศึกษาเกษตรกรผู้ปลูกยาง จ.สงขลา สศท.9 แจง การปรับตัวของเกษตรกรในช่วงวิกฤตราคาตกต่ำ

ศุกร์ ๓๑ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๘:๒๙
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 ชูผลการศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในจังหวัดสงขลา ระบุ เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดรายจ่ายในสถานการณ์วิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ระบุ แนวโน้มเกษตรกรยังคงปลูกยางพาราเหมือนเดิม แต่จะมีการหาพันธุ์ยางพาราที่ให้ผลผลิตสูงปลูกทดแทน

นายพลเชษฐ์ ตราโช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา (สศท.9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราท่ามกลางวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ในจังหวัดสงขลา ปี ๒๕๕๘ ว่า หลังจากที่ราคายางพาราตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรชาวสวนยางของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีพื้นที่ปลูก (ข้อมูลปี 2557) จำนวน 2,066,960 ไร่ พื้นที่กรีด 1,665,037 ไร่ ผลผลิตรวมทั้งจังหวัดมีปริมาณ 501,008 ตัน และมีผลผลิตต่อไร่ 290 กก./ไร่ ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้ปรับตัวเพื่อการอยู่รอดในสถานการณ์วิกฤตราคายางพาราตกต่ำใน 4 ด้าน ดังนี้

ด้านที่ 1 การลดรายจ่ายในภาคการเกษตร เกษตรกรชาวสวนยางร้อยละ 73 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการลดรายจ่ายในภาคเกษตรของชาวสวนยาง โดยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเรื่องการใช้ปุ๋ย คือ เกษตรกรร้อยละ 14 จะงดการใส่ปุ๋ยในปีนี้ และร้อยละ 12 ใส่ปุ๋ยในปริมาณที่ลดลง โดยเกษตรกรร้อยละ 46 ปรับเปลี่ยนชนิดของปุ๋ยจากปุ๋ยเคมีเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีผสมอินทรีย์ หรือเปลี่ยนการซื้อปุ๋ยจากยี่ห้อที่มีราคาแพงไปซื้อยี่ห้อที่มีราคาถูกกว่า และเกษตรกรร้อยละ 27 ไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านการลดรายจ่ายในภาคเกษตร

ด้านที่ 2 การเพิ่มรายได้ในภาคการเกษตร เกษตรกรชาวสวนยางร้อยละ 34 มีการปรับตัวในด้านการเพิ่มรายได้ในภาคการเกษตร เช่น การรับจ้างกรีดยางพาราทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยครัวเรือนละ 26,600 บาทต่อปี การปลูกพืชร่วมกับยางพาราเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นครัวเรือนละ 10,194 บาทต่อปี การเลี้ยงสัตว์เพื่อเพิ่มรายได้ทำให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นครัวเรือนละ 5,595 บาทต่อปี โดยเกษตรกรร้อยละ 66 ไม่ได้มีการปรับตัวหรือไม่เพิ่มกิจกรรมในด้านการเพิ่มรายได้ในภาคการเกษตร

ด้านที่ 3 การลดรายจ่ายนอกภาคเกษตร เกษตรกรชาวสวนยางร้อยละ 91 มีการปรับตัวโดยการลดรายจ่ายนอกภาคเกษตรที่สำคัญ คือรายจ่ายที่ใช้ในการบริโภคในครัวเรือน เช่น ลดรายจ่ายในด้านการบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็นลงเฉลี่ยครัวเรือนละ 8,331 บาทต่อปี และลดรายจ่ายด้านจัดซื้อเครื่องอุปโภค ลงเฉลี่ยครัวเรือนละ 2,864 บาทต่อปี ในขณะที่เกษตรกรร้อยละ 9 ไม่สามารถลดรายจ่ายด้านบริโภคและอุปโภคลงได้

ด้านที่ 4 การเพิ่มรายได้นอกภาคเกษตร เกษตรกรร้อยละ 25 ประกอบอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้นอกภาคเกษตร ได้แก่อาชีพรับจ้างทั่วไป ขายของตลาดนัดและรับเหมาก่อสร้าง ทำให้มีรายได้จากอาชีพเสริมเฉลี่ยครัวเรือนละ 73,250 บาทต่อปี โดยเกษตรกรร้อยละ 75 ไม่มีการปรับตัวในด้านการเพิ่มรายได้นอกภาคเกษตร

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการปลูกยางพาราในอนาคต พบว่า เกษตรกรยังคงปลูกยางพาราเหมือนเดิมแต่จะมีการหาพันธุ์ยางพาราที่ให้ผลผลิตสูงปลูกทดแทนยางพาราพันธุ์เดิม เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเหมาะสมกับการปลูกยางพาราและความถนัดของเกษตรกร แต่ความคาดหวังให้บุตรหลานมาทำการเกษตรนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่คาดหวังให้บุตรหลานมาทำการเกษตร สืบเนื่องจากราคาของผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ไม่แน่นอน และต้องการให้บุตรหลานได้ทำงานในด้านอื่นมากกว่า นายพลเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน