นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการดิจิทัล แบงกิ้ง 19 ล้านคน เติบโตจากปี 2557 ประมาณ 37% มีปริมาณธุรกรรมสูงถึง 10.7 ล้านล้านบาท โดยธุรกรรรมผ่านโมบาย แบงกิ้ง มีการเติบโตอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับการเติบโตของสมาร์ทโฟนในตลาด สำหรับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1 ดิจิทัล แบงกิ้ง ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 7ล้านคน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 38% ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องในเรื่องการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในยุคดิจิทัลที่ต้องการบริการทางการเงินที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ดังนั้น ธนาคารฯ จึงได้พัฒนาระบบชำระเงินใหม่ล่าสุดผ่านดิจิทัล แบงกิ้ง ได้แก่ Pay PLUS ซึ่งเป็นบริการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผูกกับแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องจำตัวเลขบัตร หรือเลขที่บัญชี เพียงทำรายการสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นของร้านค้า แล้วชำระเงินโดยเลือกชำระผ่าน Pay PLUS พร้อมทั้งกรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับ K-Mobile Banking PLUS ลงไป ระบบจะส่งข้อมูลแจ้งเตือนไปที่ K-Mobile Banking PLUS ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ายืนยันรายการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ภายในเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ การชำระเงินด้วย Pay PLUS เป็นการชำระเงินโดยการหักจากบัญชีของลูกค้าที่ผูกกับ K-Mobile Banking PLUS ไว้ โดยใช้เลขโทรศัพท์มือถือเป็นเลขอ้างอิง เพิ่มความสะดวก และรวดเร็วในการชำระเงิน และมีความปลอดภัยสูงด้วยระบบการป้องกัน 3 ชั้น (Triple Lock Security)ที่ก้าวหน้าที่สุด คือ มีระบบจดจำเบอร์โทรศัพท์ ตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ และยังมีรหัสผ่าน 6 หลัก ซึ่งทุกอย่างจะต้องตรงกันเท่านั้น จึงจะเข้าใช้งานในระบบได้ หากกดผิดครบ 3 ครั้ง ระบบจะล็อคอัตโนมัติทันที จึงถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Mobile Payment ที่ธนาคารกสิกรไทยนำมาใช้เป็นธนาคารแรก
สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรมมาร่วมเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยกัน ประกอบด้วย เอไอเอส, เซ็นทรัล ออนไลน์, เอสเอฟ ซีเนม่า, ไทยทิคเก็ตเมเจอร์, นครชัยแอร์, นกแอร์, ทรู ดิจิตอล พลัส และเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่ง Pay PLUS จะเป็นช่องทางชำระเงินที่สะดวก ง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกคนที่มีสมาร์ทโฟน
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน Pay PLUS จะได้รับเงินคืน 5% สูงสุดไม่เกิน 100บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2558 นอกจากนี้ ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์มากมายจากแคมเปญ Reward PLUSเมื่อลูกค้าทำการชำระค่าบริการหรือทำธุรกรรมใดๆ ครบ 3 ครั้งต่อเดือน ผ่าน K-Mobile Banking PLUS หรือ K-Cyber Banking
นายปกรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบัน ธุรกรรมผ่านดิจิทัล แบงกิ้ง มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยธนาคารฯ ตั้งเป้าธุรกรรมผ่านดิจิทัล แบงกิ้งในปีนี้สูงถึง 3.5 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณธุรกรรมการโอนเงินและชำระเงินสูงถึง 32 ล้านรายการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 44%ของธุรกรรมการโอนเงินและชำระเงินรวมของธนาคารฯ ดังนั้นการพัฒนา บริการ Pay PLUS จึงเป็นการตอบสนองไลฟ์สไลต์ของคนในโลกยุคใหม่ ที่จะมีการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ธนาคารฯ ได้วางเป้าหมายขยายพันธมิตรบริการ Pay PLUS ทั้งร้านค้าออนไลน์ และร้านค้าออฟไลน์ ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด โดยพันธมิตรที่เคยใช้รูปแบบการรับชำระเงินในแบบเดิม (EDC, mPOS, Payment Gateway) ก็สามารถมาใช้รูปแบบใหม่อย่าง Pay PLUS ได้ด้วย จึงมั่นใจว่า Pay PLUS จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของระบบการชำระเงินที่จะสร้างความสะดวกให้ลูกค้าและยังช่วยกระตุ้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมออนไลน์ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว