นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า "ตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ของธุรกิจไมซ์ไทย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางมายังประเทศไทย 120,000 คน สร้างรายได้กว่า 10.6 พันล้านบาทรองลงมาคือ อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง อีกทั้งในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 - มิถุนายน 2558) นักเดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนยังคงครองอันดับหนึ่งคือ จำนวน 71,462 คน สร้างรายได้ 6,281.94 ล้านบาท จีนจึงเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย"
การขับเคลื่อน "ไมซ์แดนมังกร" ให้มีความแข็งแกร่งและเป็นตลาดอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่องนั้น ทีเส็บได้ใช้แพลตฟอร์มของโครงการ Thailand MICE UNITED ซึ่งดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่อเนื่องมาเป็นปีที่สองในการพัฒนา สินค้าและบริการด้านไมซ์ที่เป็นที่ต้องการและตรงใจกับตลาดไมซ์จีนที่ปัจจุบันเป็นกลุ่มไมซ์พรีเมี่ยม มีกิจกรรมที่นิยมทั้งการช็อปปิ้ง สปา และการเข้ามาจัดงานไมซ์แบบเอ็กคลูซีฟ
"ทีเส็บตอบโจทย์ตลาดจีนกลุ่มพรีเมี่ยมตามกลยุทธ์การตลาด ด้วยการพัฒนาโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดและการขาย "Thailand CONNECT Welcome Package Ratchaprasong District" เพื่อกระตุ้นไมซ์จีน โดยทำงานร่วมกับสมาคมวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของโครงการ Thailand MICE UNITED มอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดของโรงแรม ร้านค้า รวมถึงผู้ประกอบการอื่นๆ ที่อยู่ในย่านราชประสงค์ โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์โครงการ Thailand's MICE United ปีที่ 2: เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจธุรกิจไมซ์สู่ AEC อีกทั้งเวทีนี้ยังเป็นโอกาสอันดีในการฉลองความสัมพันธ์ไทย – จีน ครบรอบ 40 ปี และเป็นการนำเสนอให้สื่อในประเทศจีนได้รับทราบถึงข้อมูลสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันที่พร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์สำหรับลูกค้าจากจีน โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี" นางสาวปาริฉัตร กล่าวเสริม
ด้าน นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า "สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 เพื่อพัฒนาและยกระดับย่านราชประสงค์ให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำของเอเชียเทียบเท่าย่านชั้นนำของโลกอย่างถนนออชาร์ดของสิงคโปร์ ย่านกินซ่าของญี่ปุ่น และย่านเซ็นทรัลของฮ่องกง เป็นต้น ย่านราชประสงค์ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ถือเป็นชุมทางแห่งการจับจ่ายใช้สอยและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก สามารถรองรับผู้มาเยือนด้วยบริการห้องพักโรงแรมระดับคุณภาพมากกว่า 3,900 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการจัดประชุมและสัมมนากว่า 40,000 ตารางเมตร พื้นที่ร้านค้า ร้านอาหาร สปา สถานบันเทิงอีกกว่า 884,200 ตารางเมตร และยังเป็นย่านวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ที่รวมปูชนียสถานอันเป็นที่เคารพสักการะเอาไว้อีกหลายแห่ง อีกทั้งยังมีสกายวอล์คหรือระบบการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเข้ากับโรงแรม ห้างสรรพสินค้าภายในย่านราชประสงค์ทำให้ผู้มาเยือนเข้าถึงย่านได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยมีนักเดินทางมาเยือนต่อวันกว่า 400,000 คน หรือมากกว่า 146 ล้านคนต่อปี
"ทางสมาคมฯ ยังมีแผนการพัฒนาย่านราชประสงค์ "Ratchaprasong Bangkok Downtown" โดยเน้นให้เห็นศักยภาพของย่านใน 3 มุมมอง คือ ย่านดังที่นักเดินทางต้องมาเยือนเมื่อมาประเทศไทย ย่านที่เป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ และเป็นย่านแห่งความสุขของประเทศ ขณะที่การนำเสนอแพ็คเกจ Thailand CONNECT Welcome Package เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เดินทางมาติดต่อธุรกิจในประเทศไทยนั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วนลดร้านอาหาร สปาจากโรงแรมชั้นนำ 7 แห่งกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ และส่วนลดจากร้านค้าย่อยอีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559" นายชาย กล่าวเสริม
ในปี 2558 ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากนักเดินทางกลุ่มไมซ์ประเทศจีนให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานไมซ์หลายงานด้วยกัน เช่น การประชุมบริษัท Infinitus จำนวน 12,000 คน การประชุมบริษัท Perfect (China) Marie Anne Tour to Thailand จำนวน 5,500 คน การประชุมบริษัท Beijing UFC จำนวน 300 คน การประชุมบริษัท Bainianhutu Winery จำนวน 200 คน และยังเป็นเจ้าภาพการจัดงานชั้นนำระดับโลก อาทิ HerbaLife Asia-Pacific Extravaganza จำนวน 20,000 คน FDI Annual World Dental Congress 2015 จำนวน 15,000 คน One Young World Summit 2015 จำนวน 2,000 คน 46th World Congress of Surgery 2015 จำนวน 2,000 คน เป็นต้น
"ภายใต้แคมเปญสื่อสารแบรนด์ Thailand CONNECT The World และแคมเปญ Thailand's MICE United จะเป็นการกระตุ้นตลาดไมซ์ในปี 2558 ให้เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้คือ นักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,036,300 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และรายได้จำนวน 106,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 และเชื่อมั่นว่าประเทศจีนยังคงเป็นตลาดไมซ์อันดับ 1 ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง" นางสาวปาริฉัตร กล่าวสรุป