แซดทีอี เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น Axon บุกตลาดพรีเมี่ยมในไทย

จันทร์ ๒๘ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๖:๔๕
แซดทีอี (ZTE) ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลก เดินหน้าบุกตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ของไทยด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่น Axon และ Axon Mini หวังผลักดันแบรนด์แซดทีอี ให้ก้าวเป็น 1 ใน 5 ผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนของไทยภายในปี 2559

ในประเทศไทย แซดทีอี วางตำแหน่งตัวเองเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยการมีส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้นในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยยอดขายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20 เท่า เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แซดทีอีมีแผนจะเปิดร้าน แซดทีอี สมาร์ท โฟน ในประเทศไทย 20 แห่งภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ และแผนขยายการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนแซดทีอีในอีกกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2559

มิสเตอร์เจเรมี จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า "แซดทีอี เตรียมทุ่มงบกว่า5 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 180 ล้านบาท) ทางด้านการขายและการตลาดในประเทศไทยไปจนถึงปี 2559 โดยเรามีแผนที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตลาดระดับกลางถึงตลาดระดับไฮเอนด์ในประเทศไทยผ่านซีรีส์ที่เป็นสมาร์ทโฟนกลยุทธ์ ได้แก่Axon (แอ็กซอน), Nubia (นูเบีย) และ Blade (เบลด) ผนวกกับการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและเน้นบริการหลังการขาย"

"เป้าหมายของแซดทีอี คือ การก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนแถวหน้า 5 อันดับแรกของไทยภายในปี 2559 และนำเสนอสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า"

แซดทีอีมุ่งมั่นที่จะจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ในระดับกลางถึงไฮเอนด์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% ของยอดขายการผลิตสมาร์ทโฟนของ ZTE โดยรวมทั่วโลก ดังนั้น แซดทีอีจึงเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น Axon ในประเทศไทยและภูมิภาคเพื่อเป็นแรงผลักดันดังกล่าว

Axon เป็นสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมและล้ำสมัย ทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมระบบตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลแบบไบโอเมตริก (Biometric) ถึง 3 แบบ ได้แก่ ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบ Smart voice(ยืนยันด้วยเสียง) และ EyePrint ID™ (ตรวจสอบจากดวงตา) ทำให้ Axon เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในตลาดเท่าที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกในขณะนี้

นอกจากนี้ Axon ยังเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม dual-cam ที่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ส่วนกล้องหลังประกอบด้วยเลนส์ HD คู่ (13 ล้านพิกเซลและ 2 ล้านพิกเซล) ซึ่งให้ประสบการณ์การถ่ายภาพเทียบเท่ากล้อง DSLR พร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.8 ขยายได้ถึง f/1.0 ให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพแม้ในจุดที่มีแสงน้อย ในขณะเดียวกันก็สามารถบันทึกวิดีโอ HDความละเอียด 4K ที่ความเร็ว 30fps กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และครอบคลุมมุมกว้าง 84 องศาและวิดีโอความละเอียด 1080p HD

นอกจากนั้น วัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่องยังมีความโดดเด่น ด้วยการใช้วัสดุเกรดเดียวกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ซึ่งเป็นโลหะอลูมิเนียมผสมแมกนีเซียมอัลลอยที่ใช้ในธุรกิจอากาศยาน คุณสมบัติช่วยสร้างความแข็งแกร่ง (มากขึ้น 80%) และทำให้ตัวเครื่องเบาขึ้น (30%) ในขณะที่การใช้โลหะและหนังเทียมผสมผสานกันช่วยเพิ่มความหรูหราสง่างามอีกด้วย คุณสมบัติสำคัญอื่นๆ ได้แก่ หน้าจอแบบ Full HD ขนาด 5.5" พร้อมกระจกกันรอย Corning Anti-Bacterial Gorilla Glass รุ่นล่าสุดที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 99% ทั้งยังรองรับ Hi-Fi (แบบ two-way) โดยใช้ระบบ digital playback และ recording ระดับพรีเมี่ยม พร้อมaudio chipset แยกเป็นอิสระ แบตเตอรี่สุดทนทานความจุ 3000mAh สายชาร์จ Quick Charge™ 2.0 เพื่อการชาร์จไฟที่เร็วขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ การชาร์จนาน 10 นาทีสามารถรองรับการโทรได้ 160 นาที

การเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Axon ในไทยนี้จัดขึ้นพร้อมกันในมาเลเซีย สิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ทางด้านแบรนด์และการขยายตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์เชิงรุกของแซดทีอี ทั้งนี้ รวมถึงการขายผ่านช่องทางอีเบย์

ทั่วโลก

"เราอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง การเปิดตัว Axon และ Axon Mini ในครั้งนี้มีเป้??าหมายในการบุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ในขณะที่เราเป็นผู้นำทางในด้านฮาร์ดแวร์ เราทราบดีว่าเราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จจากการแข่งขันด้านฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ ที่เสริมสร้างประสบการณ์การสื่อสารมีคุณค่าและความสำคัญมากเพียงใด" มิสเตอร์จ้าวกล่าวสรุป

สโลแกนของแซดทีอี คือ Tomorrow never waits ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของแซดทีอีในการส่งมอบเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้กับลูกค้าในปัจจุบัน เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องรอ

Axon Elite (ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นอินเตอร์เนชันแนลของ Axon) ที่ล่าสุดในงาน IFA ซึ่งเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ที่ใหญ่ที่สุดโลก ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้รับรางวัล 'User Experience Gold Award' โดย IDGและ German Industry and Commerce Ltd. อีกด้วย

การเปิดตัวสมาร์โฟนเรือธงนี้เกิดขึ้นก่อนหน้างานมหกรรมมือถือครั้งใหญ่ของไทยคือ Thailand Mobile Expo 2015 ทั้งนี้ Axon จะวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป (ราคา 17,900 บาท)ส่วน Axon Mini จะเปิดตัวพร้อมรายละเอียดในไทยเร็วๆ นี้

Link ดาวน์โหลดรูปภาพ

https://drive.google.com/folderview?id=0B40oIA-Y531hSHFlVUFRUEdjMGc&usp=sharing

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว