ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ที่ A-’

พฤหัส ๐๘ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๑๓
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency IDR) ของธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด มหาชน (SCBT) ที่ 'A-' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local-Currency IDR) ที่ 'A+' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

ในขณะเดียวกันฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ SCBT ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงอยู่ด้านท้าย

การประกาศอันดับเครดิตนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ Standard Chartered Bank (SC; 'AA-'/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ซึ่งเป็นธนาคารแม่ของ SCBT เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงาน Fitch Affirms Standard Chartered at 'AA-', Maintains Negative Outlook ที่ www.fitchratings.com)

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต–อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสนับสนุน

อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) ของ SCBTพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารแม่ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่า SCBT เป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากการที่ SC ถือหุ้นใน SCBT เกือบทั้งหมด (99.87%), ความเชื่อมโยงในการดำเนินงานกับธนาคารแม่ที่อยู่ในระดับสูงและการให้ความช่วยเหลือในด้านการเงินแก่ SCBT มาอย่างต่อเนื่องในอดีต นอกจากนี้ SCBT ถือเป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญในระยะยาว โดยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจธนาคารระหว่างประเทศและการขยายเครือข่ายทางธุรกิจของกลุ่มธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไปยังกลุ่มประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง

แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบสำหรับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของ SCBT สอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ SC

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของ SCBT สะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงของธนาคาร ในด้านฐานะเงินกองทุนและอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งน่าจะเพียงพอในการรองรับความเสี่ยงจากการปรับตัวด้อยลงของคุณภาพสินทรัพย์ SCBT มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ประมาณ 22.0% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 (ตามประมาณการของฟิทช์) ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นในประเทศ แม้ว่า SCBT จะมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ค่อนข้างอ่อนแอโดยธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 7.2% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 และยังอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่อย่างไรก็ตามธนาคารยังมีอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ที่ 123.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนความสามารถในการรองรับความเสี่ยงโดยรวมของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ต่อความสามารถในการทำกำไรของธนาคารที่น่าจะยังคงอ่อนแอในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากธนาคารยังคงมีความเสี่ยงในด้านการตั้งสำรองและยังได้รับแรงกดดันในด้านรายได้ดอกเบี้ยรับจากการชะลอตัวของสินเชื่อ ทั้งนี้อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์ปรับตัวลงมาที่ 0.51% ต่อปี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 จากค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 0.99%

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต –อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันอยู่ในระดับเดียวกันกับอันอับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของธนาคารเนื่องจากหุ้นกู้ภายใต้โครงการเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศและ อันดับเครดิตสนับสนุน

การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลของ SC อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของ SCBT แต่อาจไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวซึ่งปัจจุบันถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย

อันดับเครดิตภายในประเทศของ SCBT เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่มอันดับ การปรับลดอันดับเครดิตไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นเนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศยังอยู่สูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ A- อยู่ 2 อันดับ

การปรับตัวลดลงของแนวโน้มที่ SC จะให้การสนับสนุนแก่ SCBT (ซึ่งอาจแสดงได้จากการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นใน SCBT อย่างมีนัยสำคัญ) อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิต แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น การเปลี่ยนแปลงของเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยอาจส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBT

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

ฟิทช์มองว่าโอกาสในการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินมีค่อนข้างจำกัดในระยะปานกลาง เว้นแต่ธนาคารจะมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกันการปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรและระดับเงินกองทุนลดลงอย่างมากอาจส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุดของประเทศไทย จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ในทางกลับกันอันดับเครดิตของหุ้นกู้ระยะสั้นอาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้นของ SCBT ถูกปรับลดอันดับ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดของ SCBT มีดังนี้

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2'

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A+' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1'

- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ 'bbb'

- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '1'

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

-อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน