ตามติดโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก สศท.2 ชู เกษตรกรได้ประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาตรงความต้องการ

จันทร์ ๑๒ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๒๓
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 ติดตามผลโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2557/58 ในพื้นที่ฝั่งขวาของเขื่อน ใน 3 อำเภอ 14 ตำบล รวม 400 ครัวเรือนเกษตร เผย เกษตรกรส่วนใหญ่ เห็นว่าโครงการฯ ตรงตามความต้องการ และเกิดประโยชน์ในระดับมาก ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเพื่อทำการเกษตรได้จริง

นายชวพฤฒ อินทรเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก (สศท.2) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามประเมินผลตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและแผนติดตามตรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ 2558 ในโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ ปีเพาะปลูก 2557/58 (1 พฤษภาคม 2557 – 30 เมษายน 2558) ของกรมชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และช่วยเกษตรกรให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอต่อการผลิต โดยการสุ่มตัวอย่าง และเก็บข้อมูลจากเกษตรกร 400 ครัวเรือน รวม 3 อำเภอ 14 ตำบล (ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2558) ที่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรบริเวณฝั่งขวาของเขื่อนทดน้ำผาจุก

จากการลงพื้นที่ พบว่า เกษตรกรมีรายได้เงินสดจากการปลูกพืช รวมเป็นเงิน 245,160 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการปลูกข้าวเจ้านาปีจำนวน 103,391 บาท รองลงมาเป็นรายได้จากการปลูกข้าวเจ้านาปรังจำนวน 51,108 บาท และอ้อยโรงงาน จำนวน 68,163 บาท

ด้านรายจ่ายเงินสดจากการปลูกพืช รวมเป็นเงิน 173,109 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นค่าพันธุ์ ค่าปุ๋ย/ยา ค่าน้ำมัน ค่าจ้างแรงงานในการทำนาปี 81,947 บาท รองลงมาเป็นรายจ่ายทำนาปรัง 41,125 บาท และรายจ่ายปลูกอ้อยโรงงาน 38,681 บาท

ด้านมูลค่าผลิตผลที่นำมาบริโภค รวมทั้งสิ้นเท่ากับ 17,016 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่มาจากด้านพืช 15,196 บาท โดยเกษตรกรมีค่าใช้จ่ายในการจัดหาน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรของครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 77 เฉลี่ย 8,277 บาท/ครัวเรือน โดยแยกเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ 5,297 บาท และ ค่าไฟฟ้าสูบน้ำ 2,668 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

นอกจากนี้ เกษตรกรเห็นว่า โครงการฯ ดังกล่าว ตรงกับความต้องการในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 59 มีความเหมาะสมกับพื้นที่และช่วยให้มีรายได้ทางการเกษตรเพิ่มขึ้นในระดับมากเท่ากัน คิดเป็นร้อยละ 54 ส่วนหนี้สิน (ณ 30 เมษายน 2558) คิดเป็นร้อยละ 74 เฉลี่ย 242,317 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ในระบบ คิดเป็นร้อยละ 73 (หนี้ในระบบ จำนวน 237,324 บาท และหนี้นอกระบบ จำนวน 4,993 บาท)

ทั้งนี้ ทัศนคติของเกษตรกร เห็นว่าช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูฝน/ฝนทิ้งช่วง คิดเป็นร้อยละ 71 โดยความคาดหวังของเกษตรกรต่อการผลิตด้านการเกษตรภายหลังมีโครงการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่าเกิดประโยชน์มาก คิดเป็นร้อยละ 63 และคาดหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเพื่อทำการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 82 เช่น คาดว่าจะช่วยให้มีน้ำเพียงพอเพื่อทำการเกษตรในฤดูแล้ง มีจำนวนรอบการผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาน้ำ ลดหรือบรรเทาภัยจากน้ำท่วม และขยายพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มขึ้น เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๙ เม.ย. ม.กรุงเทพ เห็นถึงคุณค่าพลังงานที่ยั่งยืนเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสร้างสกิลตรง
๒๙ เม.ย. แอลจีเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ผลักดันธุรกิจด้วยนวัตกรรมพร้อมรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจหลักและการเติบโตในอนาคตเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ
๒๙ เม.ย. ฮั้วฟง รับเบอร์ฯ (HFT) จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.โหวตผ่านฉลุยทุกวาระ
๒๙ เม.ย. ซีเอ็ด เปิดสาขาใหม่ที่ตราด! บริจาคหนังสือ 2 แสนบาท หนุนการอ่านในท้องถิ่น
๒๙ เม.ย. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งปีที่อัตราหุ้นละ 0.52
๒๙ เม.ย. ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9
๒๙ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย โชว์ศักยภาพแกร่ง พาเหรดทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมจัดแสดงในงาน China Enterprise Product Resources
๒๙ เม.ย. สถานทูตอิตาลี เปิดศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงเทพ
๒๙ เม.ย. CHAYO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ไฟเขียวทุกวาระ
๒๙ เม.ย. ผู้บริหารบางจากฯ แชร์แนวทางขับเคลื่อนการรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ 2 เวที