SET Note Volume 13/2558 ในหัวข้อ “ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO Survey): Economic outlook ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2558”

พุธ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๔๐
การสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เกี่ยวกับมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2558 พบว่า มีบริษัท จดทะเบียนตอบแบบสอบถาม 108 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์รวม 36% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

แนวโน้มเศรษฐกิจ

· ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO) ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2558 มีแนวโน้มแย่ลง ซึ่งตรงกันข้ามจากการสำรวจในครั้งก่อนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว และ CEO คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะเติบโตลดลงไปอยู่ในช่วงน้อยกว่า 2% และคาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมมีทิศทางที่แย่ลงเช่นเดียวกับการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ

o ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2558 ยังคงเป็นนโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่CEO คาดการณ์ว่า การท่องเที่ยว จะมีบทบาทต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศที่ลดลง ภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และ CEO เริ่มให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลกที่ไม่เติบโตตามที่คาดการณ์และเริ่มมีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเพิ่มมากขึ้น

แนวโน้มการดำเนินธุรกิจ

· CEO ส่วนใหญ่คาดผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม 58% ของ CEO ที่ตอบแบบสอบถาม คาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2558 จะเติบโตมากกว่า 3% และ 41% คาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2558 จะเติบโตมากกว่า 6%

· ในการรับมือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขณะที่ด้านการตลาดให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ด้านการลงทุนบริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนในต่างประเทศแต่เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ให้ความสนใจกับการบริหารควบคุมค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และมีข้อสังเกตว่า 1 ใน 4 ของบริษัทจดทะเบียนที่วางแผนลดอัตราการจ้างงานซึ่งสูงกว่าการสำรวจครั้งที่ผ่านมา

แนวโน้มการลงทุน

· 60% ของบริษัทฯ ที่ตอบแบบสอบถาม มีแนวโน้มลงทุนเพิ่มขึ้น ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งเงินทุนที่สำคัญในการขยายการลงทุนยังคงเป็นกำไรสะสม การกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และการออกหุ้นกู้ภายในประเทศ

· เมื่อพิจารณาการลงทุนต่างประเทศ พบว่า 47% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามมีการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนน้อยกว่า 25% ของเงินลงทุนทั้งหมดของบริษัท และเน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว