ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร ณ ไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงระหว่าง 1Q 2557 – 3Q 2558 รายไตรมาส

ศุกร์ ๓๐ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๙:๓๖
ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากตลาดชะลอตัว และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในตลาดจึงชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ไปไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2558 หรือว่าปีหน้า ลุ้นผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ์

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 มีคอนโดมิเนียมประมาณ 6,810 ยูนิตเท่านั้นที่เปิดขาย และน้อยกว่าไตรมาสที่ 2 ประมาณ 40% นอกจากนี้ผู้ประกอบการหลายรายยังคงกังวลต่อการโอนกรรมสิทธิ์ของยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วและมียูนิตที่มีกำหนดจะแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2558 เพราะว่าจำนวนของยูนิตที่โอนกรรมสิทธิ์ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม – กรกฎาคม พ.ศ.2558 ลดลงและยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2557 เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร และการไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ของพวกที่ซื้อเก็งกำไร ซึ่งรัฐบาลเองก็ตระหนักถึงปัญหาตรงนี้ และต้องการผลักดันให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัวจึงออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ์โดย ดังนี้

การลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ และห้องชุดเหลือร้อยละ 0.01 เป็นเวลา 6 เดือนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ให้สินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทในการซื้อบ้าน คอนโดมิเนียมในวงเงินรวมเบื้องต้น 10,000 ล้านบาท

การการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ที่จ่ายไปเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นจำนวนร้อยละ 20 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ต้องเป็นการซื้อครั้งแรกและเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยจริง โดยต้องใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อเนื่องกัน 5 ปีภาษี นับแต่ปีที่มีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งนี้ ต้องจ่ายค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์และโอนกรรมสิทธิ์ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2559

ซึ่งมาตรการที่ออกมานี้ถือได้ว่าช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ค่อนข้างมาก เพราะในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าจะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเป็นจำนวนมากทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์หรือไม่ยอมโอนกรรสิทธิ์ รวมทั้งในส่วนของตลาดบ้านจัดสรรด้วย"

นอกจากนี้นายสุรเชษฐ ยังได้กล่าวถึงคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาว่า "ประมาณ 41% ของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 อยู่ในพื้นที่กรงเทพมหานครรอบนอก หรือว่านอกพื้นที่ให้บริการของระบบรถไฟฟ้า/ใต้ดินในปัจจุบัน คอนโดมิเนียมมากกว่า 2,600 ยูนิตเปิดขายในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังการก่อสร้าง เช่น พื้นที่ตามแนวถนนกรุงเทพ – นนทบุรี, ประชาราษฎร์สาย 2 และพหลโยธิน"

อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมใหม่ที่เปิดขายในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 อยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น

"อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมทั้งกรุงเทพมหานครอยู่ที่ประมาณ 78% และมีคอนโดมิเนียมอีกประมาณ 30,000 ยูนิตที่รอการขายอยู่ในตลาดโดยที่ประมาณ 48% ของคอนโดมิเนียมที่ยังขายไม่ได้นี้มีราคาขายอยู่ในช่วงระหว่าง 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร โครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรมีอัตราการขายต่ำกว่าคอนโดมิเนียมระดับราคาอื่นๆ ค่อนข้างมาก เพราะว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครไม่สามารถซื้อคอนโดมิเนียมในระดับราคานี้ได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เปิดขายคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรจะไปโรดโชว์โครงการในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในสิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน เพราะว่าพวกเขาต้องการเพื่อสัดส่วนของผู้ซื้อชาวต่างชาติให้มากขึ้นเพื่อทดแทนผู้ซื้อชาวไทย" นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติม

ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

หมายเหตุ: เฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในไตรมาสนั้นๆ เท่านั้น

ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 อยู่ที่ประมาณ 97,500 บาทต่อตารางเมตรลดลงประมาณ 11% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ เพราะว่ามีโครงการระดับ Luxury เปิดขายในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 ลดลง

คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่หรือประมาณ 81% ของยูนิตที่เปิดขายในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2558 มีราคาขายระหว่าง 50,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร และอีกประมาณ 5% หรือ 350 ยูนิตมีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร แม้ว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury หลายโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรเปิดขายในช่วง 3 – 4 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีอัตราการขายที่สูง แต่ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในกำลังซื้อในโครงการระดับ Luxury ดังนั้น โครงการระดับ Luxury นี้จึงเปิดขายลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา

"หลังจากที่ผ่านมา 9 เดือนของปีนี้และกำลังซื้อในตลาดคอนโดมิเนียมยังคงไม่มาก ผู้ประกอบการหลายรายปรับแผนการลงทุนและเพิ่มสัดส่วนของโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น และมีผู้ประกอบการหลายรายที่ชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อน แต่ก็มีบางรายที่ยังคงมีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภคนี้จึงคาดว่าทั้งปีพ.ศ.2558 อาจจะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่น้อยกว่า 40,000 ยูนิตซึ่งน้อยที่สุดในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา" นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง