ตำแหน่งที่ 2 จากผลคะแนนรวมตลอดฤดูกาลที่สำคัญสำหรับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับแนวหน้าของทวีปเอเซียเป็นของ Craig Baird นักแข่งจากทีม Clearwater Racing โดยมี 14 คะแนนนำ Nico Menzel นักแข่งหนุ่มอายุ 17 ปี จาก PICC Team StarChase ผู้ซึ่งเปิดตัวกับการแข่งขันรายการนี้เป็นปีแรกได้อย่างสวยงามด้วยอันดับที่ 3 ในส่วนของอันดับที่ 4 เป็นของ Tung Ho-Pin จาก Budweiser Team Absolute Racing และอันดับที่ 5 เป็นของ Martin Ragginger นักแข่งจากทีม Porsche Holding ซึ่งไม่สามารถจบการแข่งขันถึง 4 สนามได้ในฤดูกาลนี้
ทางด้านการแข่งขันใน Class B หลังจากการต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์อย่างน่าตื่นเต้น อันดับที่ 2 เป็นของ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งชาวไทยจากทีม est Cola Racing Team ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ Wayne Shen นักแข่งจากทีม Modena Motorsports อันดับที่ 4 เป็นของ Francis Tjia จากทีม OpenRoad Racing และอันดับที่ 5 เป็นของ Li Chao จากทีม Betterlife
ผลจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักของสมาชิกในทีม Kamlung Racing ส่งผลให้ van der Drift นักแข่งอายุ 29 ปี ชาวนิวซีแลนด์ คว้าอันดับ 1 ไปครองได้สำเร็จโดยให้ความเห็นว่า "ทุกอย่างเริ่มขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนสิงหาคม เราได้ตำแหน่งบนโพเดี่ยมจากการแข่งขันครั้งแรกของผมในรถ 911 และสนามต่อจากนั้นเราไม่สามารถจบการแข่งขันได้ แต่เรากลับมาอย่างสวยงามด้วยการชนะ 2 ครั้งติดต่อกันในสนามที่เกาหลี รายการนี้เป็นการแข่งขันที่สุดยอดเต็มไปด้วยนักแข่งที่มีฝีมือ ต่อสู้กันอย่างสุดความสามารถ และให้ประสบการณ์ที่ดีกับเราอย่างไม่ต้องสงสัย"
ทางด้านของ Tan ผู้คว้าแชมป์ใน Class B หลังผ่านการแย่งชิงตำแหน่งอันสุดตื่นเต้นตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา เขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแน่วแน่ในการรักษาอันดับผู้นำในตารางคะแนนสะสม ถึงแม้ในสนามที่ 14 Tan จะมีคะแนนนำ วุฒิกร อันดับที่ 2 เพียง 5 คะแนน นอกจากนี้ นักแข่งใน Class B ที่อยู่อันดับต้นๆ ของตารางทั้ง 4 คน ล้วนแล้วแต่มีโอกาสในการคว้าแชมป์ด้วยกันทั้งหมด การแข่งขันจึงเต็มไปด้วยความกดดัน คู่แข่งทั้ง 3 ขึ้นนำไปเมื่อเริ่มการแข่งขัน และดูเหมือนจะเป็นทาง วุฒิกร ที่ทำได้ดีในสนามนี้ จนกระทั่งรถของ Francis Tjia เกิดการผิดพลาดขึ้นโดย Tan ได้กล่าวว่า "ในขณะนั้นผมคิดว่าคงไม่ได้ตำแหน่งแชมป์เสียแล้ว รถของ Wayne พุ่งชนรถของผมอย่างรุนแรงแต่สุดท้ายเราก็จบการแข่งขันจนได้ มันเป็นการแข่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมโชคดีมากที่ได้คะแนนพิเศษจากการได้ตำแหน่ง pole position"
นอกเหนือจาก ปอร์เช่ คาร์เรร่า คัพ เอเซีย 2015 (Porsche Carrera Cup Asia 2015) ในการแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ ยังมีการแข่งขันรายการ FIA World Endurance Championship 6 Hours of Shanghai จัดขึ้นพร้อมกันบนสนามแข่งความยาว 5.45 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นแข่งรอบคัดเลือกในวันศุกร์ทั้ง 2 รายการโดย Ragginger เป็นผู้ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุดคว้าตำแหน่งออกสตาร์ทเป็นอันดับแรกของสนามที่ 13 ในขณะที่นักแข่งหนุ่มอายุเพียง 17 ปี Menzel ออกสตาร์ทเป็นลำดับที่ 2 ทางด้านการแข่งขันของ Class B ซึ่ง Tan เป็นผู้ที่ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุด ได้รับคะแนนพิเศษสำหรับการออกสตาร์ทเป็นอันดับ 1
เมื่อสัญญาณปล่อยตัวทำหน้าที่ในสนามที่ 13 Ragginger ออกสตาร์ทได้ดีและขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว เข้าเส้นชัยทิ้งห่าง van der Drift และ Rodolfo Avila จากทีม Jebsen โดยมี Baird เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 6 ตามหลัง Tung ในอันดับที่ 5 และในขณะที่ผลของ Class B นั้น Tan ทำได้เพียงแค่จบการแข่งขันในอันดับที่ 4 เท่านั้น หลังจากชนเข้ากับรถของ Wayne Shen ส่วน Francis Tjia เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3
ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ฤดูกาลแข่งขัน 2015 นี้ ไม่จบลงอย่างง่ายดาย เมื่อ van der Drift และ Baird ต่างลุ้นตำแหน่งแชมป์ด้วยกันทั้งคู่ ในขณะที่ Class B นั้น นักแข่งอันดับบนของตารางทั้ง 4 คน ต้องขับเคี่ยวเพื่อชิงแชมป์จนจบสนามสุดท้ายเช่นเดียวกัน
van der Drift ขึ้นนำ Menzel ทันทีที่ออกสตาร์ทแต่นักแข่งหนุ่มสามารถแซงคืนได้ และรักษาอันดับผู้นำด้วยการอาศัยความได้เปรียบจากการเปลี่ยนมาใช้ยางชุดใหม่ Menzel ทิ้งระยะห่างจากผู้ตามมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังสามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดของการแข่งขันในสนามนี้อีกด้วย หลังการออกสตาร์ทครั้งที่ 2 ของสนามด้วยการปล่อยตัวของ Safety Car สำหรับ Menzel ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำและเข้าเส้นผ่านธงตราหมากรุก โดยทำเวลาเร็วกว่า Ragginger ผู้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ถึง 2 วินาที ตามด้วยอันดับ 3 Tung ซึ่งขับได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ส่วนอันดับ 4 เป็นของ van der Drift ซึ่งแม้ไม่สามารถจบการแข่งขันสนามสุดท้ายบนโพเดี่ยมได้ แต่ยังสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ประจำฤดูกาลจากผลคะแนนสะสมอันดับ 1
สำหรับการแย่งตำแหน่งแชมป์ของนักแข่งใน Class B เป็นการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างนักแข่งทั้ง 4 คน สนามสุดท้ายนี้ วุฒิกร ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ของ Class ตามติดด้วย Tan ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Francis Tjia และ Wayne Shen ตามลำดับ จากนั้น Shen สามารถแซงขึ้นนำเป็นอันดับที่ 2 หลังจากรถของ Tjia เสียการควบคุมส่งผลให้ Tan จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 3 และมีคะแนนสะสมตลอดฤดูกาลเป็นอันดับ 1 คว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปีของ ปอร์เช่ คาร์เรร่า คัพ เอเซีย 2015 (Porsche Carrera Cup Asia 2015) Class B ไปได้ในที่สุดด้วยคะแนนเหนือกว่าอันดับที่ 2 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
หลังจากการแข่งขันอย่างหนักหน่วงตลอด 14 สนามใน 6 ประเทศและ 2 สนามสุดท้ายที่เซี่ยงไฮ้ แสดงให้เห็นถึงความสนุกสนานตื่นเต้น ด้วยมาตรฐานของการจัดงานแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก พร้อมความเร้าใจจากสุดยอดรถแข่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับการแข่งขันในสนามโดยเฉพาะ ปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Type 991 Cup) ทั้งหมดนี้คือ ปอร์เช่ คาร์เรร่า คัพ เอเซีย 2015 (Porsche Carrera Cup Asia 2015) 1 ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ดีที่สุดของทวีปเอเซีย